tl;dr
SiteGround เป็นผู้ให้บริการเว็บโฮสติ้งที่มั่นคงแข็งแกร่งพร้อมฟีเจอร์ที่โดนใจ ประสิทธิภาพยอดเยี่ยมและความเร็วแรงสม่ำเสมอ ด้วยส่วนลดถึง 53% สำหรับผู้สมัครใช้บริการครั้งแรก บริการระดับห้าดาวและฟีเจอร์เจ๋ง ๆ ของทางค่ายเอง เราขอบอกเลยว่า เรา รัก SiteGround เป็นคู่แข่งที่แข็งแกร่ง! เรียนรู้เพิ่มเติม.
ใครก็ตามที่มีความคุ้นเคยกับ Bitcatcha อาจสังเกตเห็นว่าเราพูดถึง SiteGround ค่อนข้างมากและคุณรู้อะไรไหม?
หากคุณทำการทดสอบหลายครั้งและทำการเปรียบเทียบสำหรับเว็บโฮสติ้งมากพอๆกับเรา คุณก็คงจะเป็นแฟนตัวยงเช่นกัน
หากคุณทำการทดสอบหลายครั้งและทำการเปรียบเทียบ เว็บโฮสติ้ง มากพอ ๆ กับเรา คุณก็อาจจะรู้สึกแบบเดียวกับเราก็ได้นะครับ
สารบัญ
ข้อดีของ SiteGround
- ช่วงเวลาให้บริการเป็นไปตามที่คาดหวังตั้งแต่ปี 2014
- SiteGround เป็นโฮสต์ WordPress แบบที่คุณไม่ต้องจัดการด้านเทคนิคเอง
- การสนับสนุนลูกค้าที่ตอบโจทย์ (ให้บริการช่วยเหลือทางโทรศัพท์ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง!)
- สำรองข้อมูลรายวัน ฟรี (แบบแชร์ได้ 30 วัน / ระบบคลาวด์ได้ 7 วัน)
- แดชบอร์ดที่ออกแบบมาเป็นพิเศษและใช้งานง่าย – เครื่องมือเว็บไซต์!
- ศูนย์ข้อมูล 6 แห่งใน 4 ทวีป
- 5 ราคาสมัครใช้ครั้งแรกของ SiteGround มีส่วนลด 53%
ข้อเสียของ SiteGround
แพ็กเกจและฟีเจอร์ของ SiteGround
SiteGround เมื่อเทียบกับคู่แข่งในตลาด
- SiteGround เทียบกับ Hostinger
- SiteGround เทียบกับ Kinsta ในฐานะโฮสติ้ง WordPress แบบที่คุณไม่ต้องจัดการด้านเทคนิคเอง
บทสรุป
เเราได้ทดสอบเว็บโฮสต์มากกว่า 40 แห่งตั้งแต่ก่อตั้ง Bitcatcha และ SiteGround ได้สร้างความประทับใจให้กับเราอย่างต่อเนื่องในแง่ของความเร็วและมูลค่า
ปัจจุบัน SiteGround มีศูนย์ข้อมูลใน 6 ประเทศและให้บริการมากกว่า 2,000,000 โดเมนทั่วโลกและมีพนักงานมากกว่า 500 คน (และจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ)
ค่ายนี้ได้รับรางวัลมากมายและเว็บไซต์ต่าง ๆ ล้วนชื่นชมค่ายนี้ แต่ผมอยากจะบอกว่าการความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดจนถึงปัจจุบันคือการเป็นพันธมิตรและได้รับการรับรองจาก WordPress ซึ่งจากคำพูดของ WordPress เองระบุว่า SiteGround คือ “หนึ่งในโฮสติ้งที่ใหญ่ที่สุดและอนาคตไกลที่สุดในโลก”
แต่เว็บโฮสติ้งไม่ใช่สิ่งเดียวที่ผู้ก่อตั้ง SiteGround หลงใหล
คนระดับบริหารของบริษัทเชื่อว่า พนักงานที่มีความสุขส่งผลให้ลูกค้ามีความสุขไปด้วย (ผมยืนยันเรื่องนี้ได้เลยค่ายนี้มีพนักงานที่ยอดเยี่ยมในการจัดการแชทสด) ฉะนั้น ทางบริษัทจึงพยายามอย่างต่อเนื่องที่จะสร้างบรรยากาศแห่งความสุขภายในสถานที่ทำงาน ซึ่งเห็นได้ชัดเลยว่าคนชอบทำงานกับค่ายนี้ดังจะเห็นได้จากรีวิวในเว็บไซต์หางานอย่าง Glassdoor ที่คนเขียนถึงบริษัทนี้ด้วยความคลั่งไคล้
บริษัทนี้เต็มที่กับพนักงาน ผลิตภัณฑ์และลูกค้าไม่แพ้กันเลยทีเดียว !
แล้วข้อมูลล่ะ? ช่วงเวลาการให้บริการเป็นอย่างไร? เมื่อเทียบกับคู่แข่งเป็นอย่างไรบ้าง?!
แน่นอน เรารู้ว่าคุณกำลังอ่านบทความนี้เพื่ออะไร เอาละครับ มาเข้าเรื่องกันเลย มาดูกันว่าอะไรคือเหตุผลที่ SiteGround เป็นเว็บโฮสต์ที่ยอดเยี่ยม!
9 เหตุผลที่ SiteGround เป็นเว็บโฮสต์ที่ยอดเยี่ยม!
1. SiteGround โหลดเว็บไซต์ของคุณได้เร็วขึ้น 4 เท่า!
หากคุณเพิ่งเริ่มใช้เว็บโฮสติ้ง คุณต้องเข้าใจเรื่องนี้เสียก่อน : ความเร็วคือหัวใจสำคัญ
จากข้อมูลของ thinkwithgoogle คนทั่วไปต้องการให้เว็บไซต์โหลดภายใน 1 วินาที ถ้าการโหลดเว็บไซต์ใช้เวลา 1-3 วินาที ก็มีโอกาสสูงถึง 32% ที่คนจะออกจากหน้าเว็บ
Google ยังกล่าวอีกว่า ตัวชี้วัดการทำงานของเว็บไซต์ จะเป็นส่วนหนึ่งของเกณฑ์การจัดอันดับในไม่ช้า โดยทั่วไปหน้าเพจของคุณจะได้รับการจัดอันดับตามปัจจัย 3 ด้าน ได้แก่ ความเสถียรของภาพ การโหลดและการโต้ตอบ ซึ่ง 2 ด้านหลังขึ้นอยู่กับความเร็วเป็นอย่างมาก!
SiteGround เข้าใจเรื่องนี้เป็นอย่างดีและพวกเขาได้ทำการบ้านอย่างหนักโดยผสมผสานการใช้ซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่างลงตัวเพื่อให้เว็บไซต์เบาและรวดเร็ว!
ฮาร์ดแวร์ล้ำสมัย – SSD และโฮสต์กับ Google Cloud
ประการแรก SiteGround รักษาความเร็วหน้าเว็บของผู้ใช้โดยใช้ SSD ในเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมด หากคุณไม่คุ้นเคยกับ SSD ผมขออธิบายง่าย ๆ ว่า มันเป็นฮาร์ดไดรฟ์ที่สามารถส่งข้อมูลได้เร็วมากซึ่งเร็วกว่า HDD ทั่วไปถึง 30%
อัปเดตในเดือนสิงหาคม 2020: เราได้รับการยืนยันว่า ศูนย์ข้อมูลทั้งหมดของค่ายนี้อยู่บนแพลตฟอร์ม Google Cloud แล้ว! ซึ่งหมายความว่าผู้ใช้ทุกคนทั้งเก่าหรือใหม่จะได้รับประโยชน์ เช่น:
- กระจายการจัดเก็บ
ข้อมูลเว็บไซต์ของคุณจะถูกเก็บไว้ในที่เก็บถาวร SSD ของ Google ซึ่งเป็นการจัดเก็บหลายชั้น
หากเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้ในการโฮสต์เกิดไม่ทำงาน (ไม่น่าจะเกิดขึ้นแต่ก็มีโอกาส) SiteGround จะสามารถสร้างเครื่องเสมือนบนโหนดอื่นในระบบคลาวด์ได้ทันทีและแนบไดรฟ์ข้อมูลที่จัดเก็บแบบกระจายเข้ากับมันโดยไม่ต้องเสียเวลาในการเรียกคืนข้อมูลสำรอง - เครือข่ายที่เร็วแรงขึ้น เว็บไซต์ที่รวดเร็วกว่าเดิม Google เป็นเกณฑ์มาตรฐานสำหรับความเร็วในการโหลดเว็บไซต์ ฉะนั้น การได้ใช้ประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐานของ Google Cloud จึงส่งผลให้เว็บไซต์ที่โฮสต์กับ SiteGround สามารถโหลดได้เร็วขึ้นและทันใจกว่าเดิม!
ซอฟต์แวร์เสริมประสิทธิภาพความเร็วแรง – Cloudflare, PHP, SuperCacher
SiteGround ใช้ซอฟต์แวร์ในลักษณะเชิงกลยุทธ์เพื่อให้แน่ใจว่าความเร็วในการโหลดเว็บไซต์รวดเร็วทันใจตลอดเวลาไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน
Cloudflare ถูกนำมาใช้เพื่อปรับปรุงการส่งเนื้อหาไปยังผู้ใช้ทั่วโลก ค่ายนี้มีการเชื่อมต่อกับจุดแลกเปลี่ยนอินเทอร์เน็ตจำนวนมากที่สุด (มากกว่า 100 จุด) ทั่วโลก เมื่อคนเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณ ข้อมูลจะถูกดึงมาจากจุดแลกเปลี่ยนที่ใกล้ที่สุด ส่งผลให้การส่งเนื้อหามีความลื่นไหลและการโหลดที่รวดเร็วมาก!
ผู้เข้าชมเว็บของคุณก็จะพอใจมากขึ้นและคุณเองก็จะได้รับการจัดอันดับดีขึ้นใน Google ซึ่งถือว่าได้ประโยชน์ ด้วยกันทุกฝ่าย!
ค่ายนี้ยังเสริมประสิทธิภาพการทำแคชชิ่งให้เจ๋งขึ้นไปอีกด้วย SuperCacher ของทางค่ายเอง!
การทำแคชชิ่งมี 3 ประเภท ได้แก่ Static Cache, Memcache และ Dynamic Cache ทำให้เว็บไซต์ของคุณสามารถรองรับการเข้าชมได้มากขึ้นถึง 100 เท่าและช่วยให้โหลดได้เร็วขึ้นถึง 4 เท่า!
กระบวนการทำงานก็คือ มีการจัดเก็บข้อมูลใน RAM ของระบบซึ่งทำให้สามารถเข้าถึงข้อมูลที่ร้องขอได้เร็วขึ้นและสามารถส่งข้อมูลนั้นไปยังหน้าจอโดยใช้เส้นทางที่มีประสิทธิภาพสูงสุด
หากคุณยังรู้สึกงงงวยกับการทำงาน ก็ไม่ต้องกังวลไปนะครับ ขอให้คุณรู้แค่ว่าสิ่งนี้จะช่วยเพิ่มความเร็วได้ถึง 40%
ประการสุดท้ายแต่มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันคือ ค่ายนี้อัปเดตซอฟต์แวร์ทั้งหมดอยู่เสมอ
แล้วการอัปเดทอยู่เสมอส่งผลต่อความเร็วอย่างไร
ซอฟต์แวร์ที่ล้าสมัยมีความเสี่ยงที่จะไม่สามารถใช้งานร่วมกับซอฟต์แวร์อื่น ๆ ที่อัปเดตใหม่ได้ ทำให้เกิดการชะลอตัวโดยไม่จำเป็น เกิดปัญหาที่ไม่ควรจะเกิด รวมถึงล้าสมัยก่อนเวลาอันควร การที่ SiteGround อัปเดตทุกอย่างอยู่เสมอจึงช่วยให้ทุกอย่างทำงานเป็นระบบซึ่งส่งผลให้เซิร์ฟเวอร์ทำงานได้เร็วขึ้น!
2. เวลาตอบสนองของเซิร์ฟเวอร์ที่รวดเร็วไม่ว่าจะอยู่มุมไหนของโลก!
เวลาตอบสนองของเซิร์ฟเวอร์คือ ระยะเวลาที่เราต้องรอจนกว่าเซิร์ฟเวอร์จะเริ่มตอบสนองต่อคำขอก่อนที่เซิร์ฟเวอร์จะเริ่มส่งเนื้อหาไปยังหน้าจอ ระยะเวลาตอบสนองของเซิร์ฟเวอร์ที่ดีควรสอดคล้องกับตัวชี้วัดการทำงานของเว็บไซต์อย่างที่พูดถึงก่อนหน้านี้
เราใช้เครื่องมือตรวจสอบความเร็วเว็บไซต์ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของเรา (เครื่องมือตรวจสอบความเร็วหนึ่งเดียวในโลก ณ วันนี้ #shamelessplug) เพื่อตรวจสอบเวลาตอบสนองของเซิร์ฟเวอร์ของไซต์ทดสอบ
US (W) | US (E) | ลอนดอน | สิงคโปร์ | เซาเปาลู |
---|---|---|---|---|
56 ms | 3 ms | 98 ms | 229 ms | 138 ms |
บังกะลอร์ | ซิดนีย์ | ญี่ปุ่น | แคนาดา | เยอรมนี |
307 ms | 222 ms | 141 ms | 1 ms | 103 ms |
SiteGround Cloud – ศูนย์ข้อมูลในสหรัฐอเมริกา
ความเร็วเฉลี่ย: 129.8 มิลลิวินาที – ดูผลลัพธ์ทั้งหมด
เมื่อดูจากแผนภูมิจะเห็นได้ชัดว่า ประเทศที่อยู่ใกล้กับที่ตั้งของเซิร์ฟเวอร์มากที่สุด (สหรัฐตะวันตก สหรัฐตะวันออก ลอนดอน เซาเปาลู แคนาดา เยอรมนี) ได้รับประโยชน์มากที่สุด ขณะที่ออสเตรเลียและประเทศในเอเชียช้ากว่าเล็กน้อย
ด้วยค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่ 129.8 มิลลิวินาที ถือว่า SiteGround Cloud ทำงานได้ดีเกินความคาดหมายของเรา! ฉะนั้น ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้เลือกศูนย์ข้อมูลที่ใกล้กับตลาดเป้าหมายของคุณมากที่สุดเพื่อประโยชน์สูงสุดของตัวคุณเอง
แล้วความเร็วของแพ็กเกจโฮสติ้งแบบแชร์ที่เป็นหน้าเป็นตาของค่ายนี้ล่ะเป็นยังไง
เราเตรียมคำตอบไว้ให้คุณแล้วครับ
เราได้สร้างเว็บไซต์ทดลองขึ้นมาโดยโฮสต์อยู่ที่ศูนย์ข้อมูลในสิงคโปร์ สหรัฐอเมริกา ลอนดอนและซิดนีย์ ดังนั้นคุณสามารถติดตามดูและตรวจสอบประสิทธิภาพความเร็วของเว็บไซต์ทดลองเหล่านั้นได้ด้วยตัวคุณเอง
หมายเหตุ
เราขอย้ำอีกครั้งว่าการทดสอบความเร็วของเซิร์ฟเวอร์ต่อไปนี้ดำเนินการโดยใช้เว็บไซต์ทดลองที่โฮสต์ด้วยแพ็กเกจแบบแชร์ของ SiteGround.
ศูนย์ข้อมูล SiteGround ที่สิงคโปร์
US (W) | US (E) | ลอนดอน | สิงคโปร์ | เซาเปาลู |
---|---|---|---|---|
211 ms | 215 ms | 180 ms | 3 ms | 351 ms |
บังกะลอร์ | ซิดนีย์ | ญี่ปุ่น | แคนาดา | เยอรมนี |
66 ms | 95 ms | 70 ms | 240 ms | 168 ms |
ความเร็วเฉลี่ย: 159.9 มิลลิวินาที
(ดูผลลัพธ์ฉบับเต็ม – เข้าสู่เว็บไซต์ทดลอง)
ศูนย์ข้อมูลที่สิงคโปร์ให้ผลการทดสอบความเร็วเฉลี่ยทั่วโลกที่ 159.9 มิลลิวินาทีซึ่งถือว่าเยี่ยมมากและยังเร็วมากเป็นพิเศษในภูมิภาคเอเชีย ขณะที่ช้ากว่าเล็กน้อยในสหรัฐอเมริกา (211 มิลลิวินาทีจากฝั่งตะวันตกและ 215 มิลลิวินาทีจากฝั่งตะวันออก) แต่ก็ยังถือว่าเร็วมาก!
ศูนย์ข้อมูล SiteGround ที่สหรัฐอเมริกา
US (W) | US (E) | ลอนดอน | สิงคโปร์ | เซาเปาลู |
---|---|---|---|---|
68 ms | 33 ms | 96 ms | 233 ms | 181 ms |
บังกะลอร์ | ซิดนีย์ | ญี่ปุ่น | แคนาดา | เยอรมนี |
243 ms | 203 ms | 165 ms | 29 ms | 118 ms |
ความเร็วเฉลี่ย: 136.9 มิลลิวินาที
(ดูผลลัพธ์ฉบับเต็ม – เข้าสู่เว็บไซต์ทดลอง)
ธุรกิจที่มีกลุ่มเป้าหมายในสหรัฐอเมริกาและแคนาดาจะพอใจมากกับความเร็วที่ยอดเยี่ยมของศูนย์ข้อมูลในสหรัฐอเมริกา! 68 มิลลิวินาทีจากสหรัฐตะวันตก 33 มิลลิวินาทีจากสหรัฐตะวันออกและเพียง 29 มิลลิวินาทีจากแคนาดา นอกจากนี้ ที่นี่ยังเป็นศูนย์ข้อมูลที่เร็วที่สุดโดยมีค่าความเร็วเฉลี่ยทั่วโลกที่ 136.9 มิลลิวินาที!
ศูนย์ข้อมูล SiteGround ที่ลอนดอน
US (W) | US (E) | ลอนดอน | สิงคโปร์ | เซาเปาลู |
---|---|---|---|---|
138 ms | 86 ms | 4 ms | 179 ms | 212 ms |
บังกะลอร์ | ซิดนีย์ | ญี่ปุ่น | แคนาดา | เยอรมนี |
292 ms | 250 ms | 223 ms | 87 ms | 16 ms |
ความเร็วเฉลี่ย: 148.7 มิลลิวินาที
(ดูผลลัพธ์ฉบับเต็ม – เข้าสู่เว็บไซต์ทดลอง)
ศูนย์ข้อมูลในลอนดอนของ SiteGround สร้างขึ้นเพื่อรองรับตลาดยุโรปโดยเฉพาะและไม่ช้าเลยโดยมีค่าเฉลี่ยความเร็วทั่วโลกที่ 148.7 มิลลิวินาที เห็นได้ชัดว่าค่ายนี้เร็วปานสายฟ้าแล่บในลอนดอนโดยมีระยะเวลาการตอบสนองเพียง 4 มิลลิวินาที ดังนั้น ผู้ใช้ทั่วภูมิภาคยุโรปจะได้เพลิดเพลินกับเว็บไซต์ที่โหลดอย่างรวดเร็ว
ศูนย์ข้อมูล SiteGround ที่ซิดนีย์
US (W) | US (E) | ลอนดอน | สิงคโปร์ | เซาเปาลู |
---|---|---|---|---|
158 ms | 233 ms | 295 ms | 94 ms | 330 ms |
บังกะลอร์ | ซิดนีย์ | ญี่ปุ่น | แคนาดา | เยอรมนี |
192 ms | 3 ms | 135 ms | 238 ms | 290 ms |
ความเร็วเฉลี่ย: 196.8 มิลลิวินาที
(ดูผลลัพธ์ฉบับเต็ม – เข้าสู่เว็บไซต์ทดลอง)
สำหรับศูนย์ข้อมูลแห่งสุดท้ายที่เรากำลังพูดถึงซึ่งไม่ได้มีความสำคัญน้อยไปกว่าแห่งอื่น ๆ คือ ศูนย์ข้อมูลใหม่ล่าสุดของ SiteGround ในนครซิดนีย์ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อให้แน่ใจว่าชาวออสซี่จะได้เพลิดเพลินกับความเร็วแรงไม่แพ้ที่ไหนในโลก เซิร์ฟเวอร์ที่นี่ทำงานได้อย่างที่ตั้งความหวังไว้เลยทีเดียวด้วยความเร็วชนิดอย่ากะพริบตาในออสเตรเลียและภูมิภาคใกล้เคียง อย่างที่เห็นได้ว่าระยะเวลาการตอบสนองของเซิร์ฟเวอร์ในซิดนีย์ใช้เวลาเพียง 3 มิลลิวินาที
ระยะเวลาการตอบสนองของเซิร์ฟเวอร์ในสิงคโปร์ก็รวดเร็วทันใจที่ 94 มิลลิวินาที! ศูนย์ข้อมูลแห่งนี้มีความเร็วเฉลี่ยทั่วโลกช้ากว่าศูนย์ข้อมูลอื่น ๆ ของทางค่ายโดยความเร็วเฉลี่ยทั่วโลกอยู่ที่ 196.8 มิลลิวินาที แต่นั่นก็ถือว่าเร็วมาก!
3. ช่วงเวลาให้บริการเป็นไปตามที่คาดหวังตั้งแต่ปี 2014
SiteGround เรารับประกันช่วงเวลาให้บริการ 99.99%
เราได้ติดตามเวลาทำงานของ SiteGround มาตั้งแต่ปี 2014 เพื่อนำการรับประกันดังกล่าวไปใช้ในการทดสอบ โดยใช้ UptimeRobot เพื่อตรวจสอบไซต์ทดสอบของเราทุกๆ 5 นาที (ด้วยตัวนับการอัปเดตตัวเอง ดูด้านล่าง) จนถึงวันนี้ SiteGround ยังไม่ทำให้เราผิดหวัง!
SiteGround Cloud Hosting – (สหรัฐอเมริกา) สถานะการออนไลน์
100%
ช่วงเวลาการให้บริการตั้งแต่วันที่ 14 ธันวาคม 2016
SiteGround Cloud Hosting – (สิงคโปร์) สถานะการออนไลน์
100%
ช่วงเวลาการให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2020
โฮสติ้งที่ใช้ร่วมกันของ SiteGround – (สหรัฐอเมริกา) สถานะการออนไลน์
100%
ช่วงเวลาการให้บริการตั้งแต่วันที่ 21 มิถุนายน 2020
โฮสติ้งที่ใช้ร่วมกันของ SiteGround – (ลอนดอน) สถานะการออนไลน์
100%
ช่วงเวลาการให้บริการตั้งแต่วันที่ 12 ธันวาคม 2020
โฮสติ้งที่ใช้ร่วมกันของ SiteGround – (ซิดนีย์) สถานะการออนไลน์
100%
ช่วงเวลาการให้บริการตั้งแต่วันที่ 13 กรกฎาคม 2020
ถึงตอนนี้ หากคุณไม่ต้องการมึนงงกับเรื่องทางเทคนิคของ SiteGround คุณสามารถข้ามไปที่ ข้อ 4 SiteGround เป็นโฮสต์ WordPress แบบที่คุณไม่ต้องจัดการด้านเทคนิคเอง อย่างไรก็ตาม หากคุณสนใจที่จะอยากรู้ว่า ค่ายนี้ได้ผลลัพธ์แบบนี้ออกมาได้อย่างไร นี่คือสิ่งที่เราค้นพบครับ:
SiteGround ใช้เทคโนโลยีของตัวเองรวมถึงโซลูชั่นที่ประดิษฐ์ขึ้นมาเองในการคาดการณ์ หลีกเลี่ยงและลดช่วงเวลาที่ระบบหยุดทำงาน เช่น:
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่
4. SiteGround เป็นโฮสต์ WordPress แบบที่คุณไม่ต้องจัดการด้านเทคนิคเอง
อย่างที่พูดไว้ในช่วงต้นว่า SiteGround เป็นหนึ่งใน เว็บโฮสต์แบบที่คุณไม่ต้องจัดการด้านเทคนิคเองซึ่ง WordPress แนะนำอย่างยิ่ง การได้รับการยอมรับขนาดนี้ไม่ได้มาง่าย ๆ เพราะต้องผ่านการทดสอบหลายพันครั้งด้านการช่วยเหลือดูแลลูกค้า ความปลอดภัยและความเร็วกว่าจะได้รับการยอมรับเช่นนี้
การได้รับการยอมรับขนาดนี้มาพร้อมกับสิทธิพิเศษบางอย่างที่เว็บโฮสต์อื่น ๆ ไม่มี เช่น:
- การดูแลข่วยเหลือเป็นพิเศษสำหรับ WordPress ผู้เชี่ยวชาญ WordPress ของ SiteGround จะช่วยเหลือคุณแก้ไขทุกปัญหาที่คุณอาจต้องเจอ พวกเขาจะช่วยดูแลด้านเทคนิคอย่างดี
- ใช้งาน WP-CLI ได้ ช่วยให้คุณจัดการเว็บไซต์ WordPress ของคุณโดยใช้พรอมต์คำสั่ง สามารถทำการอัปเกรดเว็บไซต์ได้ ทำการสำรองข้อมูลได้ เผยแพร่โพสต์ใหม่ได้และดำเนินการดูแลระบบปกติส่วนใหญ่ก็สามารถทำได้โดยใช้เพียงชุดคำสั่งเท่านั้น
- 1-Click Staging การอัปเดตเว็บไซต์แบบแบ่งส่วนอาจดูเหมือนไม่เป็นมืออาชีพ ความสามารถในการอัปเดตทั้งเว็บไซต์อย่างสมบูรณ์ด้วยคลิกเดียวมีค่าสำหรับเราชนิดเกินบรรยาย
- ใช้งาน Git ได้ คุณสามารถใช้แพลตฟอร์ม Git ที่คุณเลือกได้เลยเพื่อให้คุณทำงานกับโปรแกรมเข้ารหัสต่าง ๆ ได้ ความสะดวกสบายของฟีเจอร์นี้คือเหตุผลที่ผู้คนมองหาเว็บโฮสต์สำหรับ WordPress แบบที่ผู้ใช้ไม่ต้องจัดการด้านเทคนิคเอง!
- การอัปเดตอัตโนมัติ SiteGround จะอัปเดตซอฟต์แวร์ที่ใช้โดยอัตโนมัติเพื่อให้ข้อมูลล่าสุดและดีที่สุดในการจัดส่งข้อมูล คุณจึงไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับความเร็วหรือปัญหาด้านความปลอดภัย!
เกร็ดสนุกๆ
SiteGround อยู่ในอันดับที่ 1 ใน รายชื่อโฮสต์ WordPress แบบที่ไม่ต้องจัดการด้านเทคนิคเอง ของเรา!
5. การสนับสนุนลูกค้าที่ตอบโจทย์ (ให้บริการทางโทรศัพท์ตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน!)
การดูแลช่วยเหลือลูกค้าที่ยอดเยี่ยมเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความน่าเชื่อถือของเว็บโฮสต์ และทีมสนับสนุนของ SiteGround ก็เกินความคาดหมายอย่างแน่นอน
ทีมงานสนับสนุนเก่งจริง ๆ และพร้อมที่จะจัดการกับปัญหาที่ซับซ้อนที่สุด ทุกคนต้องเข้ารับการฝึกอบรมแบบติวเข้ม ได้รับฟีดแบ็คและถูกประเมินการทำงานเป็นประจำเพื่อให้พวกเขาคงคุณภาพการให้บริการไว้เสมอ
มาดูกันว่าฝ่ายบริการลูกค้ามีอะไรให้บ้าง
- แชทสดตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน การสนับสนุนทางโทรศัพท์และระบบบัตรคิว
ฟีเจอร์แชทสดเป็นสิ่งที่เราใช้มากที่สุด ทุกครั้งที่พบปัญหา เราจะตรวจสอบกับทีมแชทสดก่อน เราไม่เคยต้องรอนานและโดยปกติปัญหาของเราจะได้รับการแก้ไขอย่างรวดเร็ว
พวกเขาได้รับการฝึกอบรมให้เป็นกันเองมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แก้ไขปัญหาให้ได้ 90% ตั้งแต่ได้รับการติดต่อครั้งแรกและตั้งเป้าให้ลูกค้าพอใจ 100%
หากแชทสดใช้ไม่ได้หรือหากคุณต้องการคุยทางโทรศัพท์มากกว่า ก็โทรหาได้เลย คุณรอไม่ถึง 5 นาทีก็จะได้คุยกับใครสักคน จากนั้นคุณจะได้รับคำตอบภายใน 10 นาทีหลังจากได้บัตรคิว - การช่วยเหลือด่วน 30 วัน
ด้วยแพ็กเกจ GrowBig หรือแพ็กเกจที่สูงกว่านั้นของ SiteGround คุณจะเข้าถึงการช่วยเหลือด่วน 30 วันซึ่งทีมช่วยเหลือด่วนจะรีบแก้ปัญหาทุกอย่างที่คุณเจอ คุณจะได้รับการตอบกลับภายในไม่กี่นาทีหลังจากได้รับบัตรคิว (ไม่ต้องรอเป็นชั่วโมง)
หากคุณอนุญาต ทีมช่วยเหลือยังสามารถเข้าถึงระบบของคุณเพื่อช่วยเหลือคุณจากระยะไกลได้! - บทความให้ความรู้ เพื่อช่วยคุณแก้ไขปัญหาอะไรก็ตามที่คุณอาจต้องเจอ ทีมสนับสนุนที่ยอดเยี่ยมของ SiteGround ได้เขียนบทความให้ความรู้ไว้หลายพันบทความ คุณสามารถเข้าถึงบทความเหล่านี้ได้ที่ ฐานความรู้
ประสบการณ์ของเราในการรับความช่วยเหลือจาก SiteGround นั้นน่าพอใจและมีประสิทธิภาพเสมอมา เราไม่เคยจบการแชทสดด้วยความรู้สึกไม่พอใจหรือปัญหายังไม่ได้รับการแก้ไข
6. การสำรองข้อมูลรายวันฟรี (แบบแชร์ 30 วัน/คลาวด์ 7 วัน)
แพ็กเกจระบบคลาวด์และโฮสติ้งแบบแชร์ของ SiteGround มาพร้อมกับการสำรองข้อมูลรายวัน ฉะนั้น คุณจึงไม่ต้องกังวลว่าจะต้องเริ่มต้นใหม่ตั้งแต่ต้นเพราะข้อมูลสูญหาย
การสำรองข้อมูลรายวันจะเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ ดังนั้น เราจึงสามารถดำเนินธุรกิจได้โดยไม่ต้องเสียเวลาสำรองข้อมูลด้วยตัวเอง
สำหรับแพ็กเกจเว็บโฮสติ้งแบบแชร์ คุณจะอุ่นใจได้กับการสำรองข้อมูลในช่วง 30 วันที่ผ่านมา หากคุณต้อง การแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อมูลที่คุณทำไว้เมื่อ 23 วันที่แล้ว คุณสามารถทำได้ง่าย ๆ ภายในไม่กี่นาทีผ่านเครื่องมือเว็บไซต์
การสำรองข้อมูลจากบัญชีคลาวด์โฮสติ้งยากกว่ามากซึ่งเว็บโฮสต์จำนวนมากไม่ให้บริการนี้ แต่ SiteGround ใจถึงและให้บริการสำรองข้อมูลย้อนหลังไป 7 วันซึ่งเป็นบริการที่โดนใจเราจริง ๆ!
การสำรองข้อมูลรายวันสามารถใช้เป็นทางเลือกสำหรับการกู้คืนจากภัยพิบัติได้เช่นกันและกระบวนการกู้คืนไม่มีค่าใช้จ่าย!
หากคุณส่งคำขอความช่วยเหลือเข้าไป พวกเขาจะช่วยแก้ปัญหาและเว็บไซต์ของคุณควรได้รับการกู้คืนภายใน 15 นาทีถ้าไม่มีปัญหาอะไรซับซ้อน.
7. แดชบอร์ดที่ออกแบบมาเป็นพิเศษและใช้งานง่าย – เครื่องมือเว็บไซต์!
คนเราไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง
ตามความเป็นจริงแล้ว ผมพบว่าคนส่วนใหญ่รับมือกับการเปลี่ยนแปลงได้ไม่ดีนัก
ฉะนั้น เมื่อเราได้ยินว่า SiteGround กำลังโละทิ้ง cPanel และนำเครื่องมือเว็บไซต์ที่ออกแบบเองมาใช้แทน เราก็รู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย พูดจริง ๆ นะครับ
แต่เอาเข้าจริง ปรากฎว่าเราเสียเวลากังวลใจไปโดยเปล่าประโยชน์ เพราะเรารู้สึกชอบเครื่องมือเว็บไซต์มากเลย
ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดอย่างหนึ่งในการออกแบบอินเทอร์เฟสคือ ฟีเจอร์ที่มากขึ้นทำให้เกิดความสับสนมากขึ้นเวลาใช้งาน ซึ่งขัดกับจุดประสงค์แรกเริ่มของการสร้างเครื่องมือเหล่านี้
เครื่องมือเว็บไซต์แก้ปัญหานี้ด้วยการออกแบบอินเทอร์เฟสโดยคำนึงถึงประสิทธิภาพเป็นหลัก พวกเขาต้องการให้หาฟีเจอร์ได้ง่ายและทำสิ่งที่ต้องการได้เร็วขึ้น
คุณจะเห็นว่าเครื่องมือเว็บไซต์ใช้แผงด้านข้างทางซ้ายซึ่งใช้กันทั่วไป สิ่งนี้ช่วยให้ผู้ใช้เข้าถึงได้ง่ายและเข้าไปดูฟีเจอร์ทั้งหมดที่เครื่องมือเว็บไซต์มีให้ได้ไม่ยาก (ตรงข้ามกับ cPanel ที่คุณต้องรู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่)
การติดตั้ง WordPress เป็นเรื่องง่ายด้วยอินเทอร์เฟสนี้ เพียงไปที่คำว่า Dashboard เลือก WordPress ก่อนจะเลือก Install & Manage จากนั้นก็ทำตามคำแนะนำบนหน้าจอ
ฟีเจอร์สำคัญอื่น ๆ อย่างการติดตั้งบัญชีอีเมลสามารถทำได้อย่างง่ายดายด้วยเครื่องมือเว็บไซต์ ไปที่แท็บอีเมลคุณจะพบทุกสิ่งที่คุณต้องการในการติดตั้งอีเมลใหม่โดยไม่ต้องกังวลใด ๆ
ผู้ใช้ที่รู้อยู่แล้วว่ากำลังทำอะไรอยู่และรู้แน่ชัดว่ากำลังมองหาอะไรอยู่จะชื่นชอบที่สามารถหาฟังก์ชันบางอย่างได้ที่ด้านบนของเครื่องมือเว็บไซต์เพื่อการเข้าถึงที่รวดเร็ว สิ่งนี้ช่วยให้คุณทำสิ่งที่คุณต้องการทำได้เร็วขึ้นและง่ายขึ้นโดยไม่ต้องยุ่งยากในการทำผ่านเมนูไปทีละขั้นตอน!
ทีมงานของ SiteGround ได้ออกแบบอินเทอร์เฟสเพื่อให้คุณสามารถทำอะไรก็ได้ที่ต้องการใน 3 คลิกหรือน้อยกว่า พวกเขายังพยายามให้แน่ใจได้ว่า ฟังก์ชั่นส่วนใหญ่ที่สามารถทำได้ใน cPanel ก็สามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นในเครื่องมือเว็บไซต์
จริง ๆ แล้ว พอได้ใช้เครื่องมือเว็บไซต์ ผมพบว่าตัวเองรู้สึกไม่คิดถึง cPanel เลย!
8. ศูนย์ข้อมูล 6 แห่งใน 4 ทวีป
SiteGround มีศูนย์ข้อมูลที่ทันสมัย 6 แห่งทั่วโลก ได้แก่ ในไอโอวา (สหรัฐฯ) ลอนดอน (สหราชอาณาจักร) Eemshaven (เนเธอร์แลนด์) แฟรงค์เฟิร์ต (เยอรมนี) สิงคโปร์ (สิงคโปร์) และซิดนีย์ (ออสเตรเลีย)
โดยปกติแล้ว ประเทศที่อยู่ใกล้กับศูนย์ข้อมูลจะได้เพลิดเพลินไปกับความเร็วของ SiteGround แบบเต็มพิกัด
คุณสามารถตรวจสอบว่าศูนย์ข้อมูลใดใกล้เคียงกับลูกค้าเป้าหมายของคุณมากที่สุดได้ที่นี่
อย่างไรก็ตาม จะเกิดอะไรขึ้นหากกลุ่มเป้าหมายของคุณอยู่ในประเทศที่ไม่มีศูนย์ข้อมูลอย่างอินเดียหรือแคนาดา?
ในทางทฤษฎีแล้ว ลูกค้าของคุณจะได้รับประสบการณ์ที่ดีน้อยกว่าโดยจะมีระยะเวลาตอบสนองของเซิร์ฟเวอร์ที่ช้ากว่าซึ่งไม่ดีต่อธุรกิจเท่าไหร่นัก
แต่ไม่ต้องกังวลครับ
SiteGround ยังคงเร็วแรงมากในประเทศที่ไม่มีศูนย์ข้อมูลดังที่พิสูจน์แล้วในผลการทดสอบความเร็วเซิร์ฟเวอร์โดยละเอียดของเรา
ตัวอย่างเช่นดูที่ ข้อ 2 ของบทความนี้ คุณจะเห็นได้เลยว่า ระยะเวลาตอบสนองจากแคนาดาใช้เวลาเพียง 29 มิลลิวินาทีโดยที่เซิร์ฟเวอร์อยู่ไกลออกมาถึงในสหรัฐอเมริกา!
ผลลัพธ์จากการส่งสัญญาณ Ping จากประเทศต่าง ๆ ก็ออกมาดีเช่นกัน เช่น อินเดีย (66 มิลลิวินาที) และญี่ปุ่น (70 มิลลิวินาที) ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นว่าความเร็วของ SiteGround นั้นรวดเร็วอย่างสม่ำเสมอทั่วโลก หรือพูดอีกอย่างหนึ่งคือ SiteGround นั้นเร็วแรงทุกที่
สิ่งเดียวที่คุณต้องทำคือ เลือกเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ใกล้กับภูมิภาคของคุณมากที่สุดและปล่อยให้ SiteGround ทำงาน
จำไว้ให้ดีนะครับว่า ค่ายนี้มีศูนย์ข้อมูลที่ยอดเยี่ยม 6 แห่งกระจายอยู่ใน 4 ทวีป
อย่าลืมเลือกศูนย์ข้อมูลที่ใกล้กับลูกค้าเป้าหมายของคุณมากที่สุด!
9. ราคาสมัครใช้งานครั้งแรกของ SiteGround มีส่วนลด 53%
SiteGround เป็นเว็บโฮสต์ที่มีความภาคภูมิใจในบริการและคุณภาพ นอกจากนี้ยังเป็นที่รู้จักในหลาย ๆ ด้าน… แต่ส่วนลดหรือการตัดราคาไม่ใช่หนึ่งในนั้น.
แม้ในช่วง Cyber Monday SiteGround ก็ไม่ได้ให้ส่วนลดมากนัก.
นี่คือเหตุผลที่เราคิดว่าราคาช่วงแนะนำพร้อมส่วนลด 53% เป็นข้อเสนอที่เจ๋งมากเมื่อพิจารณาจากบริการที่คุณจะได้รับ
หากคุณตั้งใจจะโฮสต์เว็บไซต์ของคุณกับ SiteGround เราขอแนะนำให้สมัครสมาชิกแบบ 3 ปีเพื่อให้ได้ประโยชน์จากส่วนลดช่วงแนะนำมากที่สุดเพื่อให้เหลือเงินในกระเป๋าเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ทั้งนั้น หากคุณไม่พอใจบริการไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม คุณสามารถยกเลิกการสมัครและรับเงินคืนภายใน 30 วัน ฉะนั้น คุณไม่มีอะไรต้องเสียอยู่แล้ว!
• ราคารวม SSL ฟรีและ CloudFlare ฟรี
เอาละครับ เราพูดถึงข้อดีต่าง ๆ ของ SiteGround กันอย่างครบถ้วนกันไปแล้ว ผมคิดว่า เพื่อความยุติธรรม เราควรจะไปดู…
ข้อเสียของ SiteGround
1. ทรัพยากรจำกัด
แม้ SiteGround จะมีฟีเจอร์และบริการที่น่าทึ่ง แต่เว็บโฮสต์รายนี้ใช่ว่าจะปราศจากข้อเสีย ตัวอย่างเช่น ตัวเลือกโฮสติ้งแบบแชร์มีจำกัด ฉะนั้น คุณจะได้รับพื้นที่ SSD แค่ประมาณหนึ่งสำหรับแพ็กเกจที่คุณสมัคร เช่น:
- 10GB สำหรับแพ็กเกจ StartUp
- 20GB สำหรับแพ็กเกจ GrowBig
- 30GB สำหรับแพ็กเกจ GoGeek
หากคุณต้องการทรัพยากรมากขึ้น คุณไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องอัปเกรดเป็นระดับถัดไป
2. ราคาที่สูงขึ้นสำหรับการต่ออายุ
คุณอาจได้รับส่วนลด 53% จากราคาเต็มในฐานะผู้ใช้ใหม่ แต่เมื่อการสมัครของคุณสิ้นสุดลง คุณจะต้องเจียดเงินมาจ่ายในราคาเต็ม (เริ่มต้นที่ 465 บาทถึง 1,240 บาทต่อเดือน) สำหรับการต่ออายุสัญญา ซึ่งแน่นอนว่าคนส่วนใหญ่รู้สึกแย่.
นอกจากนี้ SiteGround ยังตัดสินใจทำเรื่องที่ขัดอกขัดใจบรรดาแฟน ๆ นั่นคือ การขึ้นราคาหลังจากที่ย้ายไปใช้แพลตฟอร์ม Google Cloud แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าจะเป็นเรื่องเลวร้ายเสมอไปนะครับ.
มันแสดงให้เห็นว่า SiteGround ทุ่มเทกับการมอบคุณค่าและประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า แต่น่าเสียดายที่ความเร็วและทรัพยากรไม่ได้มาฟรี ๆ
ในฐานะที่เราเองก็เป็นผู้ให้บริการด้านการสร้างเว็บ เราเคยรู้สึกว่าน่าเสียดายที่ SiteGround มีราคาค่อนไปทางแพง แต่พอปรับราคาใหม่ เรายิ่งรู้สึกว่าค่ายนี้สนนราคาอยู่ในกลุ่มระดับพรีเมี่ยม!
อย่างไรก็ตาม ในฐานะผู้จัดหาบริการเว็บโฮสติ้ง เราต้องบอกว่าการขึ้นราคาครั้งนี้เป็นการดำเนินการที่จำเป็น SiteGround กำลังทำในสิ่งที่บริษัทที่เคารพตนเองควรทำ นั่นคือ มองหาวิธีพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา
หากต้นทุนในการปรับปรุงพัฒนาคือราคาก็ไม่ว่ากัน อย่างน้อยพวกเขาก็มอบคุณค่าที่พวกเขา ต้องการ ให้กับลูกค้าจริง ๆ.
หากคุณต้องการประหยัดเงินให้ได้มากขึ้น เราขอแนะนำให้สมัครแพ็กเกจแบบนานที่สุดเพื่อให้ได้ประโยชน์จาก การเป็นผู้ใช้รายใหม่ แถมคุณยังจะได้ไม่ต้องจ่ายค่าต่ออายุเร็วเกินไป!
แพ็กเกจและฟีเจอร์ของ SiteGround
SiteGround มีแพ็กเกจรองรับผู้ใช้ทุกกลุ่ม ตั้งแต่ธุรกิจขนาดเล็กไปจนถึงลูกค้าระดับองค์กร มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง:
1. โฮสติ้งแบบแชร์
StartUp | GrowBig | GoGeek | |
---|---|---|---|
พื้นที่ดิสก์ | 10 GB | 20 GB | 40 GB |
จำนวนเว็บไซต์ | 1 | หลายเว็บ | หลายเว็บ |
การจราจร /เดือน | 10,000 | 25,000 | 100,000 |
ราคา/เดือน | 217 บาท* | 310 บาท* | 465 บาท* |
* ราคาพิเศษสำหรับสมัครครั้งแรก สมัคร 1 เดือนหรือสูงสุดไม่เกิน 36 เดือนในราคาเดียวกัน
2. คลาวด์โฮสติ้ง
ตัวเลือกคลาวด์โฮสติ้งของ SiteGround เป็นบริการที่ช่วยดูแลจัดการด้านเทคนิคให้คุณอย่างเต็มรูปแบบพร้อมความเร็วแรงเป็นพิเศษและการช่วยเหลือดูแลระดับวีไอพีตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน หากคุณต้องการคลาวด์โฮส
ติ้ง แพ็กเกจของค่ายนี้มีตั้งแต่ 2,480-3,100 บาทต่อเดือน (Bitcatcha.com โฮสต์ด้วยแพ็กเกจคลาวด์)
3. โฮสติ้งเฉพาะ, เว็บโฮสติ้งแบบเช่าช่วงและโฮสติ้งสำหรับองค์กร
อัปเดตในเดือนสิงหาคม 2020: SiteGround หยุดให้บริการโฮสติ้งแบบเซิร์ฟเวอร์ส่วนตัว.
นอกจากนี้ คุณยังจะได้เพลิดเพลินไปกับโฮสติ้งแบบเช่าช่วงหรือโฮสติ้งสำหรับองค์กรหากแบบนี้ตอบโจทย์คุณมากกว่า แพ็กเกจแบบนี้ราคาไม่ถูกแต่มาพร้อมกับสิทธิประโยชน์พิเศษที่คุณหาไม่ได้จากที่อื่น พูดง่าย ๆ คือ คุณจะได้ตามราคาที่คุณจ่ายไป!
แม้ว่า SiteGround จะมีแพ็กเกจเว็บโฮสติ้งที่หลากหลายสำหรับวัตถุประสงค์ต่าง ๆ แต่โดยส่วนตัวแล้ว เรารู้สึกว่า ตัวเลือกเว็บโฮสติ้งแบบแชร์ ของค่ายนี้ดีพอสำหรับ 85% ของเว็บไซต์
• ราคารวม SSL ฟรีและ CloudFlare ฟรี
• รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
SiteGround เมื่อเทียบกับคู่แข่งในตลาด
SiteGround เทียบกับ Hostinger
เราอยากรู้มากว่า SiteGround เทียบกับ Hostinger แล้วเป็นยังไงเมื่อพูดถึงระยะเวลาตอบสนองของเซิร์ฟเวอร์ดังนั้น เราจึงโฮสต์เว็บไซต์ทดลองกับศูนย์ข้อมูลของทั้งสองค่ายในสหรัฐอเมริกา ยุโรปและสิงคโปร์เพื่อเปรียบเทียบกัน
ผลลัพธ์ออกมาตามนี้ครับ
SiteGround GrowBig | Hostinger Premium | |
---|---|---|
ที่ตั้งเซิร์ฟเวอร์ | สหรัฐอเมริกา | สหรัฐอเมริกา |
US (W) | 68 ms | 75 ms |
US (E) | 33 ms | 21 ms |
ลอนดอน | 96 ms | 92 ms |
สิงคโปร์ | 233 ms | 244 ms |
เซาเปาลู | 181 ms | 136 ms |
บังกะลอร์ | 243 ms | 211 ms |
ซิดนีย์ | 203 ms | 265 ms |
ญี่ปุ่น | 165 ms | 172 ms |
แคนาดา | 29 ms | 37 ms |
เยอรมนี | 118 ms | 107 ms |
ค่าเฉลี่ยทั่วโลก | 136.9 ms | 136 ms |
ผลลัพธ์ฉบับเต็ม |
* แพ็กเกจ GrowBig ของ SiteGround เทียบกับแพ็กเกจพรีเมี่ยมแบบแชร์ของ Hostinger (เว็บไซต์ของทั้งสองค่ายโฮสต์ในสหรัฐอเมริกา)
ผลการเปรียบเทียบออกมาสวยดีเดียวครับ ระยะเวลาในการตอบสนองของ SiteGround และ Hostinger จากศูนย์ข้อมูลในสหรัฐอเมริกาดูสูสีกันมาก โดย SiteGround มีแต้มเหนือกว่านิดหน่อยเมื่อดูระยะเวลาตอบสนองจากประเทศส่วนใหญ่ ส่งผลให้ความเร็วเฉลี่ยทั่วโลกดีกว่าเล็กน้อย ที่ 136.9 มิลลิวินาที
อย่างไรก็ตาม เราต้องยอมรับว่าค่าความเร็วเฉลี่ยทั่วโลกที่ 136 มิลลิวินาทีของศูนย์ข้อมูล Hostinger ในสหรัฐอเมริกาไม่ใช่ตัวเลขที่น่าเกลียดอะไรเลย!
SiteGround GoGeek | Hostinger Premium | |
---|---|---|
ที่ตั้งเซิร์ฟเวอร์ | ยุโรป | ยุโรป |
US (W) | 138 ms | 143 ms |
US (E) | 86 ms | 83 ms |
ลอนดอน | 4 ms | 9 ms |
สิงคโปร์ | 179 ms | 239 ms |
เซาเปาลู | 212 ms | 194 ms |
บังกะลอร์ | 292 ms | 118 ms |
ซิดนีย์ | 250 ms | 267 ms |
ญี่ปุ่น | 223 ms | 262 ms |
แคนาดา | 87 ms | 88 ms |
เยอรมนี | 16 ms | 10 ms |
ค่าเฉลี่ยทั่วโลก | 148.7 ms | 141.3 ms |
ผลลัพธ์ฉบับเต็ม |
* แพ็กเกจ GoGeek ของ SiteGround เทียบกับแพ็กเกจพรีเมี่ยมแบบแชร์ของ Hostinger (เว็บไซต์ของทั้งสองค่ายโฮสต์ในยุโรป)
SiteGround นำหน้า Hostinger เมื่อดูจากการโฮสต์ที่ศูนย์ข้อมูลในลอนดอนของทั้งสองค่าย ซึ่งเอาชนะได้ในหลายประเทศยกเว้นเยอรมนี แคนาดาและเซาเปาลู ด้วยค่าเฉลี่ยทั่วโลก 148.7 มิลลิวินาทีเทียบกับ 141.3 มิลลิวินาทีของ Hostinger จะเห็นได้ว่าค่าความเร็วเฉลี่ยทั่วโลกจากศูนย์ข้อมูลในลอนดอนของ SiteGround เฉือนคู่แข่งด้วยตัวเลขที่ห่างกันมากกว่า
SiteGround Growbig | Hostinger Premium | |
---|---|---|
ที่ตั้งเซิร์ฟเวอร์ | สิงคโปร์ | สิงคโปร์ |
US (W) | 211 ms | 179 ms |
US (E) | 215 ms | 250 ms |
ลอนดอน | 180 ms | 216 ms |
สิงคโปร์ | 3 ms | 3 ms |
เซาเปาลู | 351 ms | 347 ms |
บังกะลอร์ | 66 ms | 58 ms |
ซิดนีย์ | 95 ms | 93 ms |
ญี่ปุ่น | 70 ms | 78 ms |
แคนาดา | 240 ms | 248 ms |
เยอรมนี | 168 ms | 217 ms |
ค่าเฉลี่ยทั่วโลก | 159.9 ms | 168.9 ms |
ผลลัพธ์ฉบับเต็ม |
* แพ็กเกจ GrowBig ของ SiteGround เทียบกับแพ็กเกจพรีเมี่ยมแบบแชร์ของ Hostinger (เว็บไซต์ของทั้งสองค่ายโฮสต์ในสิงคโปร์)
เมื่อเทียบตัวเลขจากศูนย์ข้อมูลในสิงคโปร์แล้ว SiteGround ดูจะทำงานได้ดีกว่าในประเทศส่วนใหญ่เช่นกันยกเว้นเยอรมนี แคนาดา เซา เปาลูและสหรัฐอเมริกาฝั่งตะวันตก Hostinger ไล่ตามไม่ทันด้วยค่าเฉลี่ยทั่วโลก 168.9 มลลิวินาทีเทียบกับ 159.9 มิลลิวินาทีของ SiteGround
จากการทดสอบทั้งหมด เป็นที่ชัดเจนว่า SiteGround ค่อนข้างเหนือกว่าตลอดแม้ว่าจะไม่มากนัก
ทั้งหมดนี้อาจเป็นเพราะการใช้งาน Supercacher ของ SiteGround ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์เพิ่มความเร็ว การตั้งค่าเซิร์ฟเวอร์ที่ไม่เหมือนใครและการโฮสต์โครงสร้างพื้นฐานกับ Google Cloud อย่างไรก็ตาม เราต้องจำไว้ว่า Hostinger เองก็สูสีมากทีเดียวโดยความเร็วรั้งท้ายเล็กน้อย แต่ราคาสมัครใช้ครั้งแรกต่ำกว่ามาก
ทั้งสองบริษัทต่างมอบคุณค่าที่ยอดเยี่ยมให้กับลูกค้าในรูปแบบที่แตกต่างกัน ปัจจัยสำคัญที่สุดสำหรับความแตกต่างระหว่าง 2 ยักษ์ใหญ่นี้จึงอยู่ที่บริการช่วยเหลือดูแลลูกค้า แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ทั้งสองค่ายก็เจ๋งพอ ๆ กันในแบบของตัวเอง
SiteGround เทียบกับ Kinsta ในฐานะโฮสติ้ง WordPress แบบที่คุณไม่ต้องจัดการด้านเทคนิคเอง
เรานำ SiteGround มาเทียบกับ Kinsta เนื่องจากรายหลังเป็นผู้เชี่ยวชาญ WordPress แบบที่ดูแลทางเทคนิคให้ทุกอย่าง แต่รายแรกก็เป็นหนึ่งในโฮสต์ที่แนะนำของ WordPress น่าสนใจใช่ไหมล่ะครับ
มาดูเหตุผลกัน
เราต้องการทำให้ถูกต้องเหมาะสม เราจึงตั้งใจเลือกแพ็กเกจที่มีช่วงราคาใกล้เคียงกันเพื่อที่การเปรียบเทียบจะเป็นไปอย่างยุติธรรม เราเลือกแพ็กเกจ GrowBig ของ SiteGround ซึ่งปกติราคาจะอยู่ที่ 775 บาทต่อเดือนเทียบกับแพ็กเกจ Starter ของ Kinsta ซึ่งมีราคาอยู่ที่ 930 บาทต่อเดือนเนื่องจากราคาใกล้เคียงกันมากที่สุด
- ทรัพยากรและฟีเจอร์ Kinsta มีพื้นที่เก็บข้อมูล 10GB พร้อมการติดตั้ง WordPress เพียง 1 ครั้ง ในขณะที่ SiteGround ให้มากเป็นสองเท่า โดยให้พื้นที่เก็บข้อมูล 20GB และติดตั้ง WordPress ได้ไม่จำกัด ทั้งสองค่ายใช้เครือข่ายส่งเนื้อหาหรือ CDN แต่ในขณะที่ SiteGround ใช้แพ็กเกจฟรีของ Cloudflare (ซึ่งดีใช้ได้เลย) Kinsta ใช้ KeyCDN ซึ่งเป็นระดับพรีเมี่ยม (ดีกว่ามาก) แถมให้ย้ายเว็บไซต์ฟรีและ 2 PHP เวิร์คเคอร์ต่อเว็บไซต์ ส่วน SiteGround ไม่ได้เปิดเผยว่ามีให้มากน้อยแค่ไหน
- ศูนย์ข้อมูล SiteGround มีศูนย์ข้อมูล 6 แห่งใน 4 ทวีป ขณะที่ Kinsta มี 24 แห่งใน 5 ทวีป เห็นได้ชัดว่า Kinsta มีแต้มเหนือกว่าในเรื่องนี้ แต่จากการพิสูจน์ก่อนหน้านี้ก็จะเห็นเหมือนกันว่า SiteGround นั้นเร็วมากไม่ว่าจะที่ไหน
- บัญชีอีเมลฟรี SiteGround เป็นผู้ให้บริการแบบออลอินวันซึ่งหมายความว่า ค่ายนี้จะให้บริการบัญชีอีเมลฟรีกับคุณโดยไม่จำกัดจำนวน อย่างไรก็ตาม Kinsta เลือกที่จะให้บริการอีเมลระดับมืออาชีพแบบชำระเงินเช่น G-Suite หรือ Office 365 จัดการกับความต้องการอีเมลของลูกค้า
- ความพร้อมในการช่วยเหลือดูแลลูกค้า เราชอบที่ Kinsta ให้ทีมผู้เชี่ยวชาญ WordPress มาดูแลช่วยเหลือลูกค้าได้อย่างยอดเยี่ยม แต่ทีมสนับสนุนของ SiteGround ก็น่าประทับใจเช่นกัน แถมยังให้สิ่งที่ Kinsta ไม่มี นั่นคือ การสนับสนุนทางโทรศัพท์
- ราคาและความคุ้มค่า
SiteGround อาจจะคุ้มค่ากว่าเนื่องจากราคาสมัครใช้ครั้งแรกเพียง 310 บาทต่อเดือน (ราคาต่ออายุที่ 775 บาทต่อเดือน) ในขณะที่ราคาของ Kinsta คงที่ตลอดคือ 930 บาทต่อเดือน
อย่างไรก็ตาม อย่าลืมว่า Kinsta ไม่ได้มาพร้อมกับอีเมลฟรี ฉะนั้น คุณจะต้องเตรียมพร้อมที่จะจ่ายเพิ่มเติมสำหรับบริการเหล่านั้น
ทั้งสองค่ายเป็นผู้ให้บริการที่ยอดเยี่ยมและแต่ละแห่งก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย
Kinsta สร้างขึ้นมาเพื่อรองรับความต้องการเฉพาะด้านอย่างเช่น เว็บไซต์ WordPress ประสิทธิภาพสูงหรือธุรกิจอีคอมเมิร์ซขนาดใหญ่ที่ใช้ WooCommerce
SiteGround ได้รับการออกแบบมาสำหรับธุรกิจขนาดเล็กระดับมืออาชีพไปจนถึงธุรกิจระดับองค์กรใหญ่พร้อมด้วยฟังก์ชั่นการทำงานทุกประเภทและเป็นโฮสต์ WordPress ที่น่าทึ่งอีกด้วย!
บทสรุป: เราขอแนะนำให้ใช้ SiteGround!
เมื่อคุณทำการทดสอบได้มากเท่าที่เราทำ มันจะเป็นที่ชัดเจนว่า SiteGround เป็นหนึ่งในโฮสต์เว็บที่แข็งแกร่งที่สุดในตลาดอย่างแน่นอน
ความเร็วเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับเราเพราะมันสัมพันธ์โดยตรงกับการขาย และ SiteGround ไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากสร้างความประทับใจ
ค่ายนี้สร้างเครื่องมือและเสริมประสิทธิภาพเซิร์ฟเวอร์เพื่อให้การตอบสนองของเซิร์ฟเวอร์รวดเร็วขึ้นและโหลดได้ทันใจมากขึ้น
ค่ายนี้สามารถส่งข้อมูลไปยังหน้าจอของผู้เข้าชมเว็บทั่วโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะอาศัยฟีเจอร์เจ๋ง ๆอย่าง Supercacher (ซึ่งสามารถเพิ่มความเร็วในการโหลดได้ถึง 40%) การใช้งาน PHP7 และการย้ายโครงสร้างพื้นฐานไปยังแพลตฟอร์ม Google Cloud
ทีมสนับสนุนช่วยเหลือลูกค้าก็คุณภาพคับแก้ว พวกเขาเก่งด้าน WordPress ในฐานะโฮสต์ WordPress แบบที่จัดการด้านเทคนิคให้คุณทุกอย่าง
ใน Bitcatcha.com SiteGround อยู่ในอันดับที่สูงในรายการโฮสต์ที่ได้รับการตรวจสอบของเรา และเป็นหนึ่งในโฮสต์ที่ดีกว่าในหลายประเทศ เช่น อินเดีย, อินเดีย, สิงคโปร์, ออสเตรเลียเป็นต้น
คุณไม่ต้องกังวลอะไรเลยเมื่อคุณโฮสต์กับ SiteGround เพียงแค่เลือกสถานที่โฮสต์ที่ใกล้กับตลาดเป้าหมายของคุณมากที่สุดและค่ายนี้จะจัดการส่วนที่เหลือให้เอง
จากประสบการณ์อันจริงจังของเราที่มีต่อ SiteGround (จำได้ไหมครับเรามีเว็บไซต์ทดลองกับค่ายนี้ 5 แห่ง) และการติดต่อพูดคุยกับฝ่ายสนับสนุนดูแลลูกค้าอีกมากมายหลายครั้ง เราพูดได้อย่างมั่นใจเลยว่า คุณไม่ควรพลาดการโฮสต์กับ SiteGround โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่จริงจังกับการเติบโตของเว็บไซต์!
ฟีเจอร์หลัก
- ความเร็วที่ยอดเยี่ยม
- ทรัพยากรที่เพียงพอ
- Uptime ไม่ต่ำกว่า 99.9%
- การเข้าถึง cPanel และ SSH
- สำรองข้อมูลรายวันฟรี
- Git และ 1 คลิก Staging
- เซิร์ฟเวอร์ใน 4 ทวีป
- การสนับสนุนระดับพรีเมี่ยม
แนะนำสำหรับ
- WooCommerce
- Magento, PrestaShop
- WordPress
- Joomla, Drupal
- เว็บไซต์ขนาดเล็ก – ใหญ่
- เว็บไซต์ธุรกิจ
• ราคารวม SSL ฟรีและ CloudFlare ฟรี
• รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
SiteGround
ราคาเริ่มต้นที่
217 บาท
รายเดือน