คนอื่นเขาตั้งอีเมลบริษัทกันอย่างไร
เรื่องนี้ถือเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับ ธุรกิจขนาดเล็ก แต่เจ้าของธุรกิจหลายคนกลับไม่รู้วิธีการตั้งอีเมลและไม่รู้จะปรึกษาใคร ส่วนในอินเทอร์เน็ตเองก็ไม่ได้มีข้อมูลอะไรมากมายเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน
เหล่าเจ้าของธุรกิจจึงเลือกทำตามแบบที่สะดวกและกลายเป็นว่าพวกเขาต้องมาเสียเงินมากเกินความจำเป็นไปกับสิ่งต่าง ๆ ที่จริง ๆ แล้วไม่มีความจำเป็นเลย
บางครั้งพวกเขาเลือกที่จะไปสายราคาถูก (ก็ฟรีนั่นแหละ) และใช้ Gmail แต่มันก็นำพาปัญหาอื่น ๆ มาให้ปวดหัวกันไปถ้วนหน้า (ควบคุมไม่ได้ สแปม ภาพลักษณ์ของความไม่เป็นมืออาชีพ อะไรประมาณนี้ เป็นต้น)
อีเมลโฮสติ้งที่ดีที่สุด
รายชื่อผู้ให้บริการที่คุ้มค่าเงิน
รายชื่อระดับพรีเมียม
หมายเหตุ
- ราคาที่ระบุในบทความนี้คำนวณโดยใช้อัตราแลกเปลี่ยน 1 USD เท่ากับ 34 บาท
- ราคาที่แสดงเป็นราคาสมาชิก 12 เดือนที่แถม IP ส่วนตัว
วันนี้ เราจะพาคุณไปสำรวจเหล่าผู้ให้บริการที่ถือว่าดีที่สุด ชี้ให้เห็นถึงข้อดีและข้อเสีย และก็จะมีตัวเลือกเด่น ๆ มาให้คุณนำไปพิจารณาด้วยเช่นกัน
รายชื่อผู้ให้บริการที่คุ้มค่าเงิน
1. SiteGround
https://www.siteground.com
SiteGround เป็นบริษัทเว็บโฮสติ้งที่ยอดเยี่ยมซึ่งเหมาะสำหรับทุกคนที่มีงบประมาณมากสักเล็กน้อยและชื่นชอบฟีเจอร์ระดับพรีเมียม เรามีประสบการณ์โดยตรงว่าบริการโฮสติ้งที่ใช้ร่วมกันของพวกเขามีความน่าเชื่อถือเพียงใด! ตรวจสอบรีวิว SiteGround ทั้งหมดของเราได้ที่นี่
- พื้นที่จัดเก็บอีเมลและการจำกัดจำนวนผู้ใช้ SiteGround ไม่จำกัดจำนวนการสร้างบัญชีอีเมลของคุณ และคุณจะได้รับพื้นที่จัดเก็บข้อมูลขนาด 20GB อย่างไรก็ตาม โควต้าพื้นที่จัดเก็บข้อมูลสูงสุดของแต่ละอีเมลคือ 4GB พื้นที่ขนาด 20GB นี้ถือว่าไม่มากมายเลยเมื่อต้องใช้เป็นทั้งพื้นที่จัดเก็บข้อมูลอีเมลและพื้นที่สำหรับโฮสต์เว็บ หากคุณมีผู้ใช้งานมากกว่า 4 คน คุณอาจจะต้องการพื้นที่จัดเก็บข้อมูลมากกว่านี้ (พื้นที่เพิ่ม 5GB จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม 310 บาทต่อเดือน) คุณแนบเอกสารได้ไม่เกินขนาด 50 MB
- บริการ IP ส่วนตัว มีให้บริการโดยคิดค่าบริการเพิ่ม 930 บาทต่อปี
- ระบบความปลอดภัย การรักษาความปลอดภัยอีเมลของค่ายนี้ทำอย่างง่าย ๆ แต่มีประสิทธิภาพด้วยโปรแกรม SpamAssassin และ SpamExpert ซึ่งจะช่วยแยกอีเมลไม่พึงประสงค์ออกไป
- ความน่าเชื่อถือ SiteGround ให้บริการสำรองข้อมูลอีเมลรายวัน และการได้รับรางวัลด้านความน่าเชื่อถือทำให้ค่ายนี้เป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับธุรกิจขนาดเล็กที่ใช้อีเมลเพื่อการติดต่อสื่อสารเท่านั้น และไม่มีลักษณะการส่งอีเมลถึงลูกค้าทุกคนพร้อมกันในคราวเดียว
- ฝ่ายสนับสนุนทางเทคนิค
ฝ่ายช่วยเหลือดูแลลูกค้าของค่ายนี้ทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมและพร้อมให้บริการคุณทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง
ท้้งหมดที่ว่ามานี้อยู่ในแพ็กเกจ GrowBig ของ SiteGround ซึ่งมีค่าบริการเพียง 185 บาทต่อเดือน หากคุณต้องการใช้งานอื่น ๆ เพิ่มเติมรวมถึงความยืดหยุ่นในการรองรับกรณีธุรกิจขยายตัวคุณอาจจะลองเลือกใช้ คลาวด์โฮสติ้ง ของค่ายนี้ดูก็ได้!
2. Inmotion Host
https://www.inmotionhosting.com
ดูเหมือน InMotion Hosting จะให้บริการหลายอย่างแบบไม่อั้น แต่คงไม่มีอะไรหรอกที่จะไร้ขีดจำกัดอย่างแท้จริง ซึ่งเราจะพาคุณไปดูรายละเอียดยิบย่อยกัน
- พื้นที่จัดเก็บอีเมลและการจำกัดจำนวนผู้ใช้
ในเอกสารแพ็กเกจ Launch ของ InMotion ระบุว่า ไม่จำกัดจำนวนผู้ใช้อีเมล พื้นที่ดิสก์และแบนด์วิดธ์สำหรับทั้งพื้นที่จัดเก็บข้อมูลเว็บโฮสติ้งและอีเมล จะดีอะไรขนาดนี้! คุณสามารถแนบไฟล์ได้มากถึง 50MB ต่อหนึ่งอีเมล
อย่างไรก็ตาม คงหนีไม่พ้นว่าบรรดาบริการแบบไร้ขีดจำกัดจำพวกนี้มักจะพ่วงมาด้วยข้อแม้ (ไม่มีใครที่จะให้บริการแบบไร้ขีดจำกัดจริง ๆ ได้หรอก) ในกรณีนี้ ตราบใดที่พื้นที่จัดเก็บของคุณไม่ส่งผลให้เกิดปัญหากับ CPU และ RAM ทาง InMotion จะไม่สนใจเลยว่าคุณจะใช้เนื้อที่เท่าไหร่ไปกับอีเมล
แต่ถ้าเกิดมีปัญหาขึ้นมาละ คุณก็คงจะต้องอัปเกรดบัญชีของคุณนั่นเอง - บริการ IP ส่วนตัว มีให้โดยคิดค่าบริการเพิ่ม 1,488 บาทต่อปี
- ระบบความปลอดภัย ในเรื่องของความปลอดภัย ค่ายนี้มีระบบรักษาความปลอดภัยที่ค่อนข้างพื้น ๆ มี SSL ในเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้ร่วมกันคอยส่งและรับอีเมลผ่านทางพอร์ต SSL ที่ปลอดภัยตามแบบฉบับที่บริการเว็บโฮสติ้งควรมี
- ความน่าเชื่อถือ การรับประกันช่วงเวลาให้บริการ 99% ทำให้คุณรู้ว่า Inmotion นั้นเชื่อถือได้ แต่จากลักษณะของบริการโฮสติ้งแบบแชร์ หากว่าผู้ใช้รายอื่นในเซิร์ฟเวอร์เดียวกันใช้ทรัพยากรมากเกินไป อาจจะส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงานโดยรวมของเว็บไซต์และอีเมลของคุณได้
- ฝ่ายสนับสนุนทางเทคนิค
จากประสบการณ์ของเราที่มีต่อ InMotion ฝ่ายช่วยเหลือดูแลลูกค้าของค่ายนี้พร้อมรับใช้คุณตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน เจ้าหน้าที่ค่อนข้างเก่งและเป็นมิตรอีกด้วย พวกเขาพร้อมจะพาคุณก้าวผ่านปัญหาต่าง ๆ ไปด้วยกัน ไม่ว่าเรื่องนั้นจะเล็กน้อยแค่ไหนก็ตาม
แพ็กเกจเว็บโฮสติ้งของ InMotion เริ่มตั้งแต่ 248 (เฉพาะผู้อ่าน Bitcatcha ลดพิเศษ 50%) 123 บาทต่อเดือน คุ้มที่จะลองเข้าไปดูจริง ๆ!
3. A2 Swift Plan
https://www.a2hosting.com
ในฐานะเว็บโฮสต์นั้น A2 Hosting คือหนึ่งในห้าค่ายแรกในใจของเรา นั่นหมายความว่าค่ายนี้ค่อนข้างเจ๋งเลยทีเดียว
- พื้นที่จัดเก็บอีเมลและการจำกัดจำนวนผู้ใช้
แพ็กเกจเว็บโฮสติ้งระดับพื้นฐานของค่ายนี้มีการจำกัดจำนวนผู้ใช้อีเมล (ผู้ใช้ 25 คนต่อบัญชีผู้ใช้บริการ ค่าบริการ 120 บาทต่อเดือน) แต่แพ็กเกจ Swift (150 บาทต่อเดือน) ไม่จำกัดจำนวนผู้ใช้
A2 ไม่จำกัดขนาดเนื้อที่จัดเก็บข้อมูลของอีเมลและไฟล์เว็บโฮสติ้ง แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะให้ใช้แบบไม่จำกัด หมายความว่า ตราบใดที่การใช้ของคุณไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้รายอื่น ๆ ที่อยู่ในเซิร์ฟเวอร์เดียวกันก็ไม่เป็นอะไร
คุณสามารถแนบไฟล์ทางอีเมลได้ถึง 50MB ถือว่าสุดยอดมาก หากคุณต้องส่งไฟล์ขนาดใหญ่พร้อมกันหลาย ๆ ไฟล์ - บริการ IP ส่วนตัว มีให้โดยคิดค่าบริการเพิ่ม 125 บาทต่อเดือน (เป็นเงิน 1,500 ต่อปี)
- ระบบความปลอดภัย ค่ายนี้มีการรักษาความปลอดภัยที่เป็นมาตรฐาน (การป้องกันโดย Firewall) แต่ไม่มีโปรแกรมการป้องกันสแปม จะว่าไปก็มีเหมือนกัน นั่นคือ ตัวกรองสแปมขั้นสูง Barracuda แต่เป็นรูปแบบของบริการเสริม ซึ่งหมายความว่าคุณจะต้องจ่ายเพิ่มนั่นเอง
- ความน่าเชื่อถือ การรับประกันช่วงเวลาให้บริการ 99% ถือว่าวางใจได้เลย แต่ด้วยความที่เป็นบริการเว็บโฮสติ้งแบบแชร์ ทุกอย่างจึงขึ้นอยู่กับความเกรงใจของผู้ใช้ด้วยกัน นั่นคือ หากมีใครใช้เซิร์ฟเวอร์เดียวกับคุณและคน ๆ นั้นใช้ทรัพยากรมากเกินไป คุณก็จะพาลได้รับผลกระทบไปด้วย
- ฝ่ายสนับสนุนทางเทคนิค
ในแง่ของการสนับสนุนทางเทคนิคนั้น A2 จัดอยู่ในขั้นดี แต่การติดต่อทางแชตสดอาจจะล่าช้าไปนิด เรารอเกือบ 20 นาทีกว่าจะได้รับการตอบกลับ
นี่คือผู้ให้บริการเว็บโฮสติ้งและอีเมลที่แข็งแกร่งและเชื่อถือได้ในมุมมองของเรา! แพ็กเกจบริการของค่ายนี้เริ่มตั้งแต่ 120 บาทต่อเดือน แต่เราแนะนำให้คุณเลือกแพ็กเกจ Swift ในราคา 150 บาทต่อเดือนซึ่งมาพร้อมสิทธิประโยชน์มากขึ้น! ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับ A2 ที่นี่
รายชื่อระดับพรีเมียม
1. Office 365 Biz
https://products.office.com
ท่านสุภาพสตรีทั้งหลาย นี่คือฝันที่เป็นจริง เป็นที่สุดของที่สุด จัดพิเศษให้เฉพาะผู้สูงศักดิ์และคนมีระดับเท่านั้น (ก็ไม่ขนาดนั้นหรอกนะครับ เราแค่อยากจะพูดเรื่องจริงให้ดูตื่นเต้นบ้างเท่านั้นเอง)
นอกจากค่ายนี้จะให้บริการอีเมลที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของคุณแล้ว คุณยังจะได้เพลิดเพลินไปกับบริการ Microsoft Office แบบเต็ม ๆ (เรากำลังพูดถึง Word, Excel, Outlook, Powerpoint อะไรประมาณนี้) ที่ซิงค์ข้ามระหว่างโทรศัพท์และคอมพิวเตอร์เพื่อให้สามารถเข้าใช้งานได้ง่าย
การติดตั้งจะซับซ้อนกว่าค่ายอื่น ๆ ที่เราเอามาลงในบทความนี้เล็กน้อย (การไม่มีแชตสดทำให้ช่วยอะไรไม่ค่อยได้เท่าไหร่) แต่คุณสามารถหาดูวิธีการได้ทางออนไลน์ และเรารับรองให้ได้เลยว่ามันคุ้มจริง ๆ
หมายเหตุ
หากคุณกำลังพิจารณาใช้ Microsoft Exchange แนะนำให้อ่านบทวิจารณ์ของเราที่พูดถึงบริการ Microsoft Exchange แบบโฮสต์ที่ดีที่สุด.
- พื้นที่จัดเก็บอีเมลและการจำกัดจำนวนผู้ใช้ หากใช้ Microsoft 365 Business Premium คุณจะได้รับพื้นที่จัดเก็บอีเมลสูงสุด 50GB ต่อผู้ใช้ และสามารถแนบไฟล์ขนาดใหญ่ถึง 150MB เมื่อใช้ Outlook บนเดสก์ท็อป
- บริการ IP ส่วนตัว บริการอีเมลของ Microsoft 365 Business Premium มาพร้อมกับ IP ส่วนตัวโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
- ระบบความปลอดภัย คุณจะได้รับการปกป้องขั้นสูงด้วยเครื่องมือรักษาความปลอดภัยจาก Microsoft เช่น Microsoft Defender for Office 365, Microsoft Intune และ Microsoft Purview เพื่อป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์และปกป้องข้อมูลของคุณ
- ความน่าเชื่อถือ Microsoft 365 Business Premium ให้บริการอีเมลระดับพรีเมียมโดยไม่ต้องแชร์เซิร์ฟเวอร์กับผู้ใช้รายอื่น และมีบริการสำรองข้อมูลอย่างต่อเนื่องที่สามารถเข้าถึงได้ทุกที่ทุกเวลา
- ฝ่ายสนับสนุนทางเทคนิค
Microsoft 365 Business Premium มีการสนับสนุนทางเทคนิคผ่านทางโทรศัพท์และช่องทางออนไลน์ อย่างไรก็ตาม อาจไม่มีบริการแชตสดสำหรับผู้ใช้บางราย
แพ็กเกจนี้มีค่าใช้จ่ายประมาณ 650 บาทต่อเดือนต่อผู้ใช้ และรวมถึงแอปพลิเคชัน Microsoft Office ทั้งหมด เช่น Word, Excel, PowerPoint และ Outlook พร้อมกับบริการอีเมลโฮสติ้งและระบบจัดการปฏิทินระดับองค์กร
คำเตือน
เนื่องจาก Office 365 Business Premium เป็นบริการอีเมลระดับ กิจการขนาดใหญ่ จึงต้องใช้ทักษะทางเทคนิคขั้นสูงในการติดตั้ง ทำใจไว้ก่อนเลยว่า มีอะไรที่คุณจะต้องค่อย ๆ เรียนรู้ระหว่างการติดตั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งค่ายนี้ไม่มีฝ่ายสนับสนุนทางเทคนิคที่พร้อมให้ความช่วยเหลือตลอดเวลา
2. Rackspace Email
https://www.rackspace.com
Rackspace เป็นบริการเว็บและอีเมลโฮสติ้งระดับพรีเมียมที่ถือว่าเจ๋งมาก ด้วยความจริงที่ว่า ค่ายนี้เป็นอีเมลโฮสต์แบบ standalone ที่ใช้ได้ดี
- พื้นที่จัดเก็บอีเมลและการจำกัดจำนวนผู้ใช้ แพ็กเกจพื้นฐานของ Rackspace มอบพื้นที่กล่องจดหมายขนาด 25GB ต่อผู้ใช้ และสามารถแนบไฟล์ได้สูงสุด 50MB ต่ออีเมล
- บริการ IP ส่วนตัว บริการอีเมลของ Rackspace มาพร้อมกับ IP ส่วนตัวโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
- ระบบความปลอดภัย Rackspace ใช้ซอฟต์แวร์กรองและสแกนระดับพรีเมียมเพื่อรักษาความปลอดภัยของกล่องจดหมายขาเข้าของคุณจากสแปม และทำการสแกนลิงก์เพื่อป้องกันมัลแวร์
- ความน่าเชื่อถือ เมื่อใช้บริการของ Rackspace คุณจะไม่ต้องแชร์เซิร์ฟเวอร์กับผู้ใช้รายอื่น จึงไม่ต้องกังวลว่าอีเมลของคุณจะล่มเนื่องจากการใช้งานหนักของผู้ใช้รายอื่น ค่ายนี้รับประกันช่วงเวลาให้บริการ 100% และมีบริการเก็บถาวรอีเมลในแพ็กเกจ “Add Archiving”
- ฝ่ายสนับสนุนทางเทคนิค
จากประสบการณ์ของเรา ทีมสนับสนุนของ Rackspace มีความรู้และพร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงทุกวันตลอดปี
แพ็กเกจอีเมลพื้นฐานเริ่มต้นที่ประมาณ 62 บาทต่อผู้ใช้ต่อเดือน โดยแพ็กเกจ Plus และ Add Archiving มีค่าใช้จ่ายประมาณ 108 บาท และ 200 บาทต่อผู้ใช้ต่อเดือนตามลำดับ
ข้อดีของการใช้ที่อยู่อีเมลที่ดูเป็นมืออาชีพ
ที่อยู่อีเมลแบบมืออาชีพเป็นตัวแสดงให้ผู้คนเห็นว่า คุณจริงจังกับการทำธุรกิจ และที่จริงแล้วลูกค้าก็คาดหวังว่าคุณจะมีที่อยู่อีเมลแบบมืออาชีพด้วย คนส่วนใหญ่สุภาพเกินกว่าจะพูดอะไรมาก แต่การใช้ที่อยู่ Gmail ในการติดต่อคนไปทั่วนั้นบอกได้เลยว่า พวกเขาจะไม่จริงจังกับคุณหรือกับธุรกิจของคุณแน่ ๆ ตอนนี้ เรามาดูข้อดีกันทีละข้อ
- สร้างแบรนด์ & สร้างชื่อให้เป็นที่จดจำ เมื่อชื่อธุรกิจของคุณสะท้อนอยู่ในที่อยู่อีเมล มันจะช่วยเตือนให้ลูกค้ารู้ว่า ธุรกิจของคุณมีอยู่จริงและถูกต้องตามกฎหมาย จริง ๆ แล้วเรื่องนี้ใช้ได้กับทุกเรื่อง การที่ชื่อธุรกิจของคุณออกสู่สาธารณะให้คนเห็นอยู่ทุกที่เป็นการช่วยสร้างแบรนด์ได้จริง ๆ
- สร้างความเชื่อมั่น ความน่าเชื่อถือเป็นอะไรที่หายากในปัจจุบัน ไม่น่าแปลกใจ หรอกเพราะทุกวันนี้มีเรื่องราวหลอน ๆ เกี่ยวกับการหลอกลวงต้มตุ๋นในรูปแบบต่าง ๆ มากมายเหลือเกิน ที่อยู่อีเมลแบบมืออาชีพเป็นตัวแสดงให้ผู้คนเห็นว่า คุณดำเนินธุรกิจที่มีตัวตนอยู่จริง ๆ
- อีเมลของคุณจะไม่ถูกส่งเข้าไปอยู่ในโฟลเดอร์สแปม ปกติ สแปมเมอร์จะใช้บริการอีเมลฟรีในการส่งข้อความสแปมและมัลแวร์ไปหาผู้อื่น ดังนั้น อีเมลที่คุณส่งจากบริการอีเมลฟรีอาจจะถูกส่งตรงไปอยู่โฟลเดอร์สแปมของลูกค้าก็ได้ หากคุณอยากแน่ใจว่า อีเมลของคุณจะไปถึงลูกค้าจริง ๆ การใช้ที่อยู่อีเมลแบบมืออาชีพถือเป็นสิ่งจำเป็นมากเลยทีเดียว
วิธีการสร้างที่อยู่อีเมลที่มีชื่อโดเมนของคุณ
ก่อนอื่นเลย คุณจะต้องมีชื่อโดเมนก่อนโดยชื่อโดเมนจะทำหน้าที่เหมือนเป็นที่อยู่ของพื้นที่จัดเก็บอีเมลคุณ (โดเมนและพื้นที่จัดเก็บอีเมลเป็นบริการที่แยกออกจากกัน เดี๋ยวเราจะไปลงรายละเอียดเรื่องนี้กันอีกที)
ดังนั้น ให้คุณไปที่ GoDaddy หรือ NameCheap เพื่อซื้อชื่อโดเมน คุณต้องแน่ใจว่า ได้คิดมาดีแล้วว่าจะเลือกใช้ชื่อไหน! คุณคงไม่อยากได้ชื่อโดเมนที่ฟังดูแล้วทะแม่ง ๆ เหมือน Pen Island Pens หรอกนะครับ
เลือกผู้ให้บริการอีเมลโฮสติ้ง
เมื่อคุณซื้อชื่อโดเมนเรียบร้อยแล้ว คุณจะต้องเลือกผู้ให้บริการอีเมลโฮสติ้งเพื่อที่อีเมลของคุณจะได้มีสถานที่จัดเก็บแบบที่จับต้องได้จริง ๆ (ใช่แล้ว เรารู้ดีว่าอีเมลคือ “ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์” แต่มันก็ยังประกอบด้วยข้อมูลที่จำเป็นต้องมีการจัดเก็บเอาไว้ในแผ่นดิสก์จริง ๆ ที่ไหนสักแห่ง)
คุณมี 2 ตัวเลือกซึ่งขึ้นอยู่กับงบประมาณ
- คุ้มค่าเงินมากที่สุด คุณสามารถยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวด้วยการฝากที่อยู่อีเมลไว้กับผู้ให้บริการเว็บโฮสติ้งที่คุณเลือก ในกรณีที่ผู้ให้บริการมีบริการนี้ด้วย หากคุณเลือกทางนี้ก็หมายความว่า ข้อมูลไฟล์เว็บไซต์กับข้อมูลอีเมลจะต้องใช้พื้นที่จัดเก็บข้อมูลร่วมกัน
- บริการระดับพรีเมียม หากคุณมีงบประมาณมากพอ คุณอาจจะอยากใช้บริการอีเมลระดับพรีเมียมที่มาพร้อมกับฟีเจอร์อันหลากหลายมากขึ้น เช่น ระบบความปลอดภัยที่รัดกุมมากขึ้น การเข้าถึงด้วยอุปกรณ์ที่หลากหลาย และบริการสำรองข้อมูลชั้นเยี่ยม
บริการอีเมลระดับพรีเมียมจะมาพร้อมพื้นที่จัดเก็บข้อมูล สำหร้ับอีเมลโดยเฉพาะซึ่งจะช่วยเรื่องความเสถียร (สำหรับบริการแบบธรรมดา หากคุณใช้พื้นที่จัดเก็บข้อมูลเกินเพดานที่กำหนด เว็บไซต์และระบบอีเมลของคุณอาจจะล่มได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่คุณไม่อยากให้เกิดขึ้นแน่ ๆ)
7 ข้อที่ต้องคำนึงถึงในการหาผู้ให้บริการ
มีอยู่สองสามอย่างที่คุณจะต้องคำนึงถึงอยู่เสมอเพื่อช่วยคุณในการตัดสินใจเลือกผู้ให้บริการ
- คุณต้องการเว็บไซต์หรือไม่ หากต้องการเว็บไซต์ คุณน่าจะเลือกเว็บโฮสต์ดี ๆ ที่ให้บริการอีเมลโฮสติ้งด้วยจะดีกว่า
- คุณต้องการพื้นที่เก็บข้อมูลมากเท่าไหร่
คำถามนี้เกี่ยวข้องโดยตรงกับจำนวนพนักงานที่คุณมี หากคุณมีพนักงาน 50 คน แต่มีเพียง 5 คนหลัก ๆ ที่ต้องใช้อีเมล คุณก็ไม่ต้องเป็นกังวลเรื่องพื้นที่จัดเก็บข้อมูลมากนัก แต่หากพนักงานทั้ง 50 คนต้องใช้อีเมลล่ะก็ คุณควรเลือกโฮสต์ที่มีพื้นที่จัดเก็บข้อมูลให้เพียงพอสำหรับทุกคน!
ผู้ให้บริการอีเมลโฮสติ้งบางค่ายอาจจะเรียกเก็บเงินตามจำนวนพื้นที่เก็บข้อมูลที่ใช้ไป บางค่ายอาจจะเก็บเงินตามจำนวนผู้ใช้ คุณต้องดูให้แน่ใจว่าได้เลือกแพ็กเกจที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณมากที่สุด! - คุณจำเป็นต้องส่งเอกสารแนบที่มีขนาดไฟล์ใหญ่ ๆ หรือไม่ หากคุณเป็นช่างภาพหรือเอเจนซี่โฆษณาล่ะก็ ภาพของคุณอาจจะมีขนาดไฟล์ที่ใหญ่อยู่พอสมควร ซึ่งจะทำให้พื้นที่จัดเก็บข้อมูลในเว็บเต็มอย่างรวดเร็ว ดังนั้น ข้อจำกัดด้านขนาดเอกสารแนบและพื้นที่จัดเก็บข้อมูลอาจจะเป็นปัญหาสำหรับคุณ
- บริการ Dedicated IP หรือ IP ส่วนตัว คุณต้องการความมั่นใจว่า อีเมลของคุณจะไปถึงมือลูกค้าจริง ๆ และจะไม่โดนส่งไปเก็บไว้ในกล่องข้อความสแปมโดยอัตโนมัติ ฉะนั้น IP ส่วนตัวคือสิ่งที่คุณต้องการ
- คุณต้องการความปลอดภัยระดับไหน คุณอาจจะต้องการบริการอีเมลที่มาพร้อมมาตรการรักษาความปลอดภัยขั้นพิเศษ ลองศึกษาดูซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสและสแปมที่อีเมลโฮสติ้งของคุณใช้
- ความน่าเชื่อถือ แม้ว่าตัวเลือกที่ฟรีหรือราคาถูกที่สุดอาจจะยั่วใจเอามาก ๆ แต่คุณอาจจะต้องหักห้ามใจเพราะมันเป็นการพาธุรกิจไปพบกับความเสี่ยง คุณต้องใช้บริการอีเมลที่มีประวัติการบริการน่าเชื่อถือ ให้ดูด้วยว่าผู้ให้บริการอีเมลมีบริการสำรองข้อมูลหรือไม่!
- ฝ่ายสนับสนุนลูกค้าที่เป็นมืออาชีพ หน้าที่ของฝ่ายช่วยเหลืิอดูแลลูกค้าในบริการอีเมลเป็นเหมือนกับนักบำบัดชีวิตคู่ เมื่อไหร่ก็ตามที่การสื่อสารระหว่างคุณกับลูกค้าเกิดผิดพลาด (ในกรณีนี้คือ อีเมลของคุณส่งไปไม่ถึงลูกค้า) คุณจะต้องการฝ่ายสนับสนุนที่มีประสิทธิภาพและมีทักษะมากพอที่จะเข้ามาแก้ไขข้อผิดพลาดต่าง ๆ ให้คุณได้
จะตรวจสอบความเสถียรของโฮสติ้งอีเมลของฉันได้อย่างไร?
คุณสามารถตรวจสอบความเสถียรของโฮสติ้งอีเมลของคุณได้โดยใช้เครื่องมือติดตามโฮสต์ เช่น UptimeRobot, Pingdom, Site24x7 หรือ Bitcatcha Host Tracker เครื่องมือเหล่านี้จะตรวจสอบเวลาตอบสนองของเซิร์ฟเวอร์และเวลาให้บริการ (uptime) เพื่อช่วยให้คุณยืนยันได้ว่าเซิร์ฟเวอร์อีเมลของคุณสามารถเข้าถึงได้และทำงานได้อย่างสม่ำเสมอ ลงทะเบียนกับ Bitcatcha Host Tracker เพื่อดูประสิทธิภาพของเซิร์ฟเวอร์จากตำแหน่งที่กำหนด รับการแจ้งเตือนเมื่อเกิดช่วงดาวน์ไทม์ และดูข้อมูลประสิทธิภาพย้อนหลัง.
สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคุณเลือกผู้ให้บริการอีเมลแล้ว
เมื่อคุณซื้อบริการอีเมลเสร็จเรียบร้อยแล้ว คุณจะต้องเชื่อมชื่อโดเมนไปยังบริษัทโฮสติ้งของคุณ / อัปเดต mx record ของคุณกับผู้ให้บริการอีเมลด้วย
วิธีที่เราจะเริ่มทำนั้นล้วนแตกต่างกันไปตามประเภทผู้ให้บริการที่คุณเลือก ผู้ให้บริการอีเมลที่มีชื่อเสียงน่าจะมีฝ่ายสนับสนุนทางเทคนิคที่ดีหรือมีฐานข้อมูลความรู้ที่กว้างขวางในการติดตั้งระบบอีเมลให้คุณ
คุณจะต้องสร้างที่อยู่อีเมล เช่น ชื่อคุณ@ชื่อโดเมนคุณ.com ในระบบอีเมลโฮสติ้งของคุณด้วย และก็เช่นเคย ขอความรู้จากฝ่ายสนับสนุนด้านเทคนิคของผู้ให้บริการของคุณเพื่อช่วยเรื่องการติดตั้ง หากคุณใช้ SiteGround มีวิธีการที่นี่ เพื่อสอนให้คุณรู้ว่าต้องทำอย่างไร
การเข้าใช้อีเมลของคุณ
การเข้าใช้อีเมลของคุณมี 2 วิธีด้วยกัน
- เว็บเมล เพียงไปที่ cPanel ของเว็บโฮสติ้ง และคลิกเว็บเมลเพื่อเข้าใช้อีเมล คุณสามารถพิมพ์ ชื่อโดเมนคุณ.com/webmail ได้ด้วยเช่นกัน (ในกรณีของเรา ก็จะเป็น bitcatcha.com/webmail)
- ใช้โปรแกรมเช็คอีเมล mail client การใช้ mail client สะดวกสบายกว่า คุณสามารถใช้ email client อย่างเช่น Outlook และตั้งค่ามันให้เสร็จสรรพเพื่อที่โปรแกรมจะได้ดาวน์โหลดอีเมลให้คุณโดยอัตโนมัติ
ผู้ให้บริการอีเมลมีการกำหนดค่าสำหรับ email client ที่แตกต่างกันไปอีก คลิกตรงนี้ เพื่อดูวิธีตั้งค่าอีเมลตามแบบของ SiteGround หากคุณใช้ผู้ให้บริการรายอื่น ก็ไม่ต้องกังวล เพราะทางผู้ให้บริการน่าจะมีการสอนวิธีสร้างและตั้งค่าอีเมลของคุณลงใน mail client แบบทีละขั้นตอนให้คุณได้ศึกษาอยู่แล้ว!
สรุปกันอีกที
| SiteGround | InMotion | A2 Hosting | Microsoft | Rackspace | |
|---|---|---|---|---|---|
| พื้นที่จัดเก็บรวม | 20GB | ไม่จำกัด | ไม่จำกัด | 50GB/ผู้ใช้ | 25GB/ผู้ใช้ |
| ขนาดไฟล์แนบ | 50MB | 50MB | 50MB | 150MB | 50MB |
| ราคาต่อปี | 3,145 บาท | 3,860 บาท | 3,310 บาท | 7,440 บาท | 745 บาท |
| ดูคุณสมบัติทั้งหมด |
ใครก็ตามที่บอกว่า อีเมลไม่ใช่สิ่งสำคัญสำหรับธุรกิจของคุณ ถ้าไม่โกหกก็รู้เรื่องธุรกิจน้อยมาก ในยุคนี้ การมีที่อยู่อีเมลที่ดูเป็นมืออาชีพถือได้ว่าเป็นสิ่งสำคัญอย่างขาดไม่ได้ในการทำให้ธุรกิจของคุณได้รับการยอมรับอย่างจริงจัง
ทางเลือกที่น่าลอง แต่นั่นไม่ใช่ทางเลือกที่ฉลาดเท่าไหร่เลย เพราะบริการเหล่านั้นมักจะมีตัวกรองสแปมคุณภาพต่ำ และทำให้ลูกค้าของคุณรู้สึกไม่เชื่อมั่น
ก่อนที่คุณจะเปิดใจให้กับค่ายไหน ขอให้พิจารณาถึงความน่าเชื่อถือของบริการ จำนวนคนในบริษัทของคุณที่จำเป็นต้องใช้อีเมล ขนาดไฟล์เอกสารแนบโดยเฉลี่ย รวมทั้งระบบรักษาความปลอดภัยของบริการด้วย
เราหวังว่า แนวทางทั้งหมดนี้จะช่วยให้คุณหาและติดตั้งอีเมลธุรกิจได้อย่างง่ายดาย และหากคุณยังมีข้อสงสัยอะไรเพิ่มเติม เชิญติดต่อเข้ามาหาพวกเราคนไหนก็ได้ใน Bitcatcha !