7 บริการเว็บโฮสติ้งที่เร็วที่สุดในปี 2025 (ดูผลการทดสอบความเร็วเต็มที่)

เว็บโฮสต์ที่เร็วที่สุดอันดับ 1 คือรายใด? ต้องเป็น Hostinger อย่างแน่นอนมันถูกขับเคลื่อนโดยเทคโนโลยี LiteSpeed ​​​​พร้อมที่เก็บข้อมูล SSD!

เราทำรายการนี้ตามประสบการณ์ตรงของเรา – เราซื้อบัญชีเว็บโฮสติ้ง ตั้งค่าไซต์ทดสอบ วัดความเร็วและเวลาการทำงานและจำกัดให้เหลือ 7 ผู้ให้บริการเว็บโฮสติ้งที่เร็วที่สุดที่ดีที่สุด (ความเร็วเฉลี่ยทั้งหมด น้อยกว่า 180 มิลลิวินาที) สำหรับคุณ

1. Hostinger TH

https://www.hostinger.in.th

หากคุณเป็นหน้าใหม่ในวงการธุรกิจออนไลน์ คุณควรจะตั้งใจฟังให้ดี เพราะคุณจะต้องอยากรู้ รายละเอียดเกี่ยวกับ Hostinger แน่นอน

Hostinger ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องสำหรับการให้บริการโฮสติ้งที่มีความสมดุล กล่าวอีกนัยหนึ่งคือมีฟีเจอร์โฮสติ้งที่แข็งแกร่งมากในราคาที่เหมาะสม

เรามีเว็บไซต์ที่เอาไว้ทดลองทั้งหมด 3 เว็บไซต์ซึ่งแต่ละเว็บไซต์จะโฮสต์อยู่กับศูนย์ข้อมูลแต่ละแห่ง เพื่อที่จะได้เห็นว่าการทำงานของเว็บโฮสต์นั้นแตกต่างกันอย่างไรบ้างเมื่ออยู่คนละทวีป นี่คือผลลัพธ์ที่ได้จากการทดสอบความเร็วเซิร์ฟเวอร์ของเรา

Premium Shared อเมริกา
ค่าความเร็วเฉลี่ยของ: 136 มิลลิวินาที – ดูผลลัพธ์แบบเต็ม

ศูนย์ข้อมูลของอเมริกามีความรวดเร็วเป็นอย่างมากซึ่งได้ผลลัพธ์เฉลี่ยทั่วโลกอยู่ที่ 136 มิลลิวินาที การเรียกใช้งานจากตำแหน่งที่อยู่ไกลออกไป เช่น สิงคโปร์ ซิดนีย์ บังคาลอร์ ดูจะมีเวลาการตอบสนองที่ช้ากว่าเล็กน้อย แต่ด้วยเหตุนี้ Hostinger จึงสร้างศูนย์ข้อมูลขึ้นมามากมายทั่วโลกเพื่อให้มั่นใจว่า เว็บไซต์ของคุณนั้นมีความรวดเร็วไม่ว่าลูกค้าของคุณจะอยู่ที่ใดในโลก

Premium Shared สิงคโปร์
ค่าความเร็วเฉลี่ยของ: 168.9 มิลลิวินาที – ดูผลลัพธ์แบบเต็ม

เซิร์ฟเวอร์ที่สิงคโปร์มีความเร็วทั่วโลกเฉลี่ยที่ 168.9 มิลลิวินาทีซึ่งถือว่าสุดยอดมาก ส่งผลให้ ระยะเวลาการตอบสนองของโฮสต์ค่ายนี้เร็วมากในประเทศสิงคโปร์ บังคาลอร์ และญี่ปุ่น แต่แน่นอนว่าคงเร็วน้อยกว่านี้ถ้าอยู่ในประเทศตะวันตกเนื่องจากระยะทางที่ไกลกว่านั่นเอง

Premium Shared ยุโรป
ค่าความเร็วเฉลี่ยของ: 141.3 มิลลิวินาที – ดูผลลัพธ์แบบเต็ม

เซิร์ฟเวอร์ฝั่งยุโรปของค่ายนี้ทำงานได้ดีในยุโรปและอเมริกาอย่างไม่มีใครเทียบได้ ทว่าในประเทศอื่น ๆ ถือว่ายังไม่เร็วเท่าไหร่ อย่างไรก็ตาม โฮสต์ค่ายนี้ยังคงทำคะแนนความเร็วทั่วโลกเฉลี่ยได้ยอดเยี่ยมที่ 141.3 มิลลิวินาที

นอกเหนือจากความเร็วแล้ว Hostinger ยังมีฝ่ายช่วยเหลือดูแลลูกค้าที่เป็นเลิศ แถมให้บริการเป็นภาษาท้องถิ่นใน 43 ประเทศทั่วโลก ! Hostinger ยังให้โดเมนฟรี 1 โดเมน พื้นที่จัดเก็บ SSD ไม่จำกัด อีเมลและแบนด์วิดธ์ ทำให้พูดได้เลยว่า Hostinger อัดแน่นไปด้วยคุณภาพและเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่เพิ่งลงสนามธุรกิจออนไลน์

ดูรีวิว Hostinger ฉบับเต็มของเราเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติม!

2. SiteGround

https://www.siteground.com

SiteGround ได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการจาก WordPress (มันถือเป็นเรื่องที่ใหญ่!) และการรับรู้แบบนั้นจะมอบให้กับโฮสต์เว็บที่ตรงตามเกณฑ์ในระดับสูงของ WordPress เท่านั้น

แพ็กเกจที่เราชอบคือ แพ็กเกจระดับเริ่มต้นที่ชื่อว่า GrowBig ราคาค่าบริการถูกมาก เพียง184 บาทต่อเดือนเท่านั้น แต่อัดแน่นไปด้วยประโยชน์และฟีเจอร์มากมาย คุณจะได้อุ่นใจไปกับฝ่ายสนับสนุนที่รวดเร็วทันใจ โปรแกรม SuperCacher ที่ช่วยเพิ่มความเร็วการโหลดหน้าเว็บไซต์ การสำรองข้อมูลรายวันอัตโนมัติและการกู้คืนข้อมูลฟรี

พูดถึงเรื่องความเร็ว SiteGround จัดอยู่ในเกรด A+ ด้วยความเร็วทั่วโลกเฉลี่ยอยู่ที่ 138 มิลลิวินาที ซึ่งเทียบกับโฮสต์พรีเมียมอย่าง Liquid Web แล้ว ถือว่าราคาเพียงแค่เศษเสี้ยวของโฮสต์พรีเมียม

ความเร็วเฉลี่ย: 138.1 มิลลิวินาที – ดูผลลัพธ์แบบเต็ม

ค่ายนี้มีศูนย์ข้อมูล 5 แห่งอยู่กระจายไปทั่ว 3 ภูมิภาค ดังนั้น คุณสามารถเลือกศูนย์ข้อมูลที่อยู่ใกล้กับลูกค้าของคุณมากที่สุดเพื่อเพิ่มความเร็วเซิร์ฟเวอร์ให้ได้สูงสุด

การเปิดใช้งาน Cloudflare ก็ได้ถูกนำบูรณการเข้าไปในระบบด้วยเช่นกัน ดังนั้นหากคุณต้องการความเร็วที่มากขึ้นไปอีก คุณสามารถทำได้ง่าย ๆ เพียงแค่คลิกเดียว

เราได้ทำการทดสอบความเร็วเซิร์ฟเวอร์สำหรับบริการเว็บโฮสติ้งในระบบคลาวด์ของ SiteGround ด้วยซึ่งได้ผลออกมายอดเยี่ยมมาก หากนี่คือสิ่งที่คุณกำลังมองหาล่ะก็ ผมแนะนำให้คุณลองเข้าไปดู รีวิว SiteGround แบบละเอียด ของเรา!

3. A2 Turbo

https://www.a2hosting.com

ใครที่รู้จัก A2 Hosting ดีจะรู้ว่า โฮสต์ค่ายนี้ให้ความสำคัญกับความเร็วมาก ค่ายนี้ทุ่มทุนสร้างเซิร์ฟเวอร์ที่รวดเร็วและฉับไวซึ่งระยะเวลาการตอบสนองของเซิร์ฟเวอร์ก็เป็นสิ่งยืนยันตัวมันเอง

หากคุณไม่เคยได้ยินชื่อ Turbo เว็บโฮสติ้งเซิร์ฟเวอร์ บอกได้เลยว่ามันถูกปรับแต่งให้ช่วยเพิ่มความเร็วเซิร์ฟเวอร์อย่างมหาศาลเลยทีเดียว ยิ่งเมื่อใช้คู่กับ Turbo Cache แล้ว เซิร์ฟเวอร์จะสามารถโหลดเว็บไซต์ได้เร็วกว่าเซิร์ฟเวอร์มาตรฐานทั่วไปถึง 20 เท่า

ทั้งนี้ แอปพลิเคชันที่ผ่านการปรับแต่งเพื่อยกระดับคุณภาพของค่ายนี้ (Drupal, Joomla, WordPress, Magento, Opencart เป็นต้น) ล้วนถูกกำหนดค่ามาเพื่อให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพโดยเฉพาะซึ่งยิ่งช่วยลดเวลาการโหลดลงไปอีก

เพื่อให้สามารถรองรับการเรียกใช้งานจากที่ต่าง ๆ ทั่วโลก A2 ได้ตั้งศูนย์ข้อมูลขึ้นมา 4 แห่งโดย 2 แห่งอยู่ในสหรัฐอเมริกา 1 แห่งในนครอัมสเตอร์ดัม และอีก 1 แห่งในสิงคโปร์ เพื่อที่เราจะสามารถเลือกเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ในตำแหน่งที่ดีที่สุดต่อความต้องการของเราได้

มาดูการทดสอบความเร็วเซิร์ฟเวอร์ของเรากันครับ :

ในการทดสอบแรก เราใช้เว็บไซต์ทดลองกับบริการในแพ็กเกจ Turbo ของ A2 และใช้ศูนย์ข้อมูล ที่อยู่ในสหรัฐอเมริกา ผลลัพธ์ที่ได้ยอดเยี่ยมมากโดยมีความเร็วเฉลี่ยทั่วโลกอยู่ที่ 149.8 มิลลิวินาที ขณะท่ี่่ผลลัพธ์จากเซาเปาลูนั้นช้ากว่าเพื่อนคืออยู่ที่ 316 มิลลิวินาที

ความเร็วเฉลี่ยของแพ็กเกจ Turbo: 149.8 มิลลิวินาที – ดูผลลัพธ์แบบเต็ม

ต่อมา เราลองทดสอบกับแพ็กเกจ Swift และใช้ศูนย์ข้อมูลในสิงคโปร์ ผลการทดสอบความเร็วเฉลี่ยทั่วโลกนั้นช้ากว่าเพียงเล็กน้อยคืออยู่ที่ 173 มิลลิวินาที แต่จากตำแหน่งเซาเปาโลยังทำได้ไม่ดีนักและผลลัพธ์มากกว่า 300 มิลลิวินาที

ความเร็วเฉลี่ยของแพ็กเกจ Swift: 173.2 มิลลิวินาที – ดูผลลัพธ์แบบเต็ม

ฉะนั้น หากคุณต้องการใช้บริการโฮสติ้งกับ A2 คุณต้องใช้แพ็กเกจ Turbo ซึ่งแพ็กเกจนี้อาจจะมีราคาแพงกว่าเล็กน้อย แต่อย่างน้อยคุณก็จะได้รับบริการตามที่หวังโดยไม่เสียเงินเปล่า!

ตรงไปที่รีวิว A2 Hosting ฉบับสมบูรณ์ของเราเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติม!

4. GreenGeeks

http://www.greengeeks.com

ค่ายนี้มีทุกอย่างที่ทำให้ยืนอยู่ในเว็บโฮสติ้งระดับพรีเมียม

GreenGeeks มีทั้งศูนย์ข้อมูลเปี่ยมประสิทธิภาพและเชื่อถือได้ ฝ่ายช่วยเหลือดูแลลูกค้าที่แข็งแกร่ง โครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย รองรับ Git และมีบริการ CloudFlare เรียกว่าครบเครื่องจริง ๆ

แต่สิ่งที่ทำให้ค่ายนี้มีความพิเศษกลับไม่ได้อยู่ที่วิธีการทั้งหลายแหล่ที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพการ โหลดให้เร็วขึ้น (ซึ่งก็เป็นที่รู้กันอยู่แล้ว) แต่อยู่ที่ปณิธานบางอย่างของบริษัท GreenGeeks คืนกำไรให้โลกของเราด้วยการลงทุน 3 เท่าของค่าไฟฟ้าทุก ๆ แอมแปร์ ที่พวกเขาใช้ไปเพื่อส่งเสริมพลังงานหมุนเวียน !

หากคุณใช้บริการฝากเว็บไซต์ของคุณกับ GreenGeeks ก็เท่ากับว่า คุณกำลังช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมให้แก่โลกนี้ด้วย

กลับมาพูดถึงความเร็ว ค่ายนี้ถือว่ายังไม่เร็วเท่าผู้ให้บริการที่ติด 6 อันดับแรกของเรา แต่ก็ถือว่า เร็วใช้ได้เลยทีเดียว !

ความเร็วเฉลี่ย: 178.2 มิลลิวินาที – ดูผลลัพธ์แบบเต็ม

โดยเฉลี่ยทั่วโลกที่ 118.6 มิลลิวินาที พวกมันอยู่ในระดับ A+ เร็วกว่าเวลาตอบกลับที่แนะนำของ Google และโฮสต์ 3 อันดับแรกของเรา อย่างไรก็ตามศูนย์ข้อมูลของพวกเขาตั้งอยู่ในสหรัฐอเมริกา แคนาดา และอัมสเตอร์ดัมเท่านั้นดังนั้นหากคุณกำหนดเป้าหมายไปยังเอเชีย คุณอาจไม่สามารถสัมผัสประสบการณ์เหล่านี้ด้วยความเร็วสูงสุดได้

แผน GreenGeeks EcoSite Pro เริ่มต้นที่ $ 7.95 ต่อเดือนแต่จำไว้ว่าคุณไม่ใช่คนเดียวที่ได้รับประโยชน์จากบริการของพวกเขา – คุณกำลังสร้างประโยชน์ให้กับโลกเพียงแค่โฮสต์กับ GreenGeeks!

ตรงไปที่รีวิว GreenGeeks ฉบับสมบูรณ์ของเราเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติม!

5. Kinsta

https://kinsta.com

ถัดไปในรายการโฮสต์เว็บที่เร็วที่สุดของเราคือโฮสติ้ง Kinsta Managed WordPress สร้างขึ้นโดยใช้แพลตฟอร์มคลาวด์ของ Google เอง Kinsta ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีล้ำสมัยของ Google และศูนย์ข้อมูล 24 15 แห่ง!

Kinsta สั่งสมประสบการณ์ด้าน WordPress มานานนับทศวรรศและได้ทุ่มเทประสบการณ์ทั้งหมดมาเนรมิตบริการที่ดีที่สุดและรวดเร็วที่สุดอย่างที่คุณไม่เคยเจอที่ไหนมาก่อนสำหรับบริการโอสติ้ง WordPress แบบที่ผู้ใช้ไม่ต้องกังวลกับการดูแลด้านเทคนิคใด ๆ เลย

ด้วยการออกแบบและโครงสร้างที่่ล้ำยุคผสานเข้ากับการใช้ KeyCDN ทำให้ Kinsta สามารถโหลดเว็บไซต์ที่คุณฝากไว้ได้ภายในเสี้ยววินาที โดยมีหลักฐานชัดเจนจากผลการทดสอบความเร็วของเรา:

ความเร็วเฉลี่ย: 179.5 มิลลิวินาที – ดูผลลัพธ์แบบเต็ม

ความเร็วของค่ายนี้ทำเอาพวกเราตกตะลึงไปตาม ๆ กันเพราะใช้ระยะเวลาในการตอบสนองต่ำกว่า 3 มิลลิวินาที ซึ่งระยะเวลาที่ช้าสุดที่เราพบคือ 127 มิลลิวินาที เรียกว่าระยะเวลาการตอบสนองที่ช้าที่สุดของค่ายนี้ก็ยังเร็วกว่าเวลาที่ดีที่สุดของโฮสต์ส่วนใหญ่ด้วยซ้ำ

ค่าเฉลี่ยทั่วโลกของค่ายนี้อยู่ที่ 179.5 มิลลิวินาทีซึ่งทำให้เราบอกได้คำเดียวเลยว่า Kinsta (และ KeyCDN) เป็นเว็บโฮสติ้งที่รวดเร็วอย่างแท้จริง สิ่งเดียวที่ทำให้เราตัดสินใจไม่วางอันดับ Kinsta ไว้สูงกว่านี้ก็คือ ราคาแพ็กเกจเริ่มต้นที่สูงถึง 930 บาทต่อเดือน

อ่านรีวิว Kinsta ของเราเพื่อดูว่ามันเป็นเว็บโฮสต์สำหรับคุณหรือไม่!

6. ScalaHosting

https://www.scalahosting.com

ScalaHosting เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2007 ซึ่งหมายความว่าพวกเขามีเวลาเหลือเฟือในการวิจัยและปรับแต่งบริการเว็บโฮสติ้งของตน

ดูเหมือนว่าพวกเขาจะใช้เวลานั้นให้เกิดประโยชน์ เนื่องจากพวกเขาสามารถพัฒนาฟีเจอร์ต่างๆในบ้านได้ซึ่งช่วยให้พวกเขารักษาราคาที่สมเหตุสมผล เช่น SPanel CMS ที่กำหนดเองและระบบ SShield Security

บริการของพวกเขามีตั้งแต่การโฮสต์อีเมลไปจนถึง VPS บนคลาวด์ที่มีการจัดการแต่เราจะเปรียบเทียบแผนเริ่มต้นเว็บโฮสติ้งระดับเริ่มต้นสำหรับวัตถุประสงค์ของบทความนี้

ความเร็วที่ชาญฉลาด ScalaHosting ทำได้ดีทีเดียว โดยเทียบกับโฮสต์เว็บอันดับต้นๆในรายการ

ความเร็วเฉลี่ย: 158.7 มิลลิวินาที – ดูผลลัพธ์แบบเต็ม

ไซต์ทดสอบที่เราสร้างขึ้นเพื่อจุดประสงค์ในการเปรียบเทียบนี้มีศูนย์ข้อมูลอยู่ในยุโรปและทำได้ดีอย่างน่าประหลาดใจ โดยลดลงเหลือเพียงความเร็วที่สูงกว่า 200 มิลลิวินาทีในญี่ปุ่น ซิดนีย์ และเซาเปาโลเท่านั้น

หากกลุ่มเป้าหมายของคุณอยู่ในอเมริกา คุณมีตัวเลือกในการเลือกเซิร์ฟเวอร์ในสหรัฐอเมริกาซึ่งน่าจะทำงานได้ดีกับผู้ใช้ที่อยู่ที่นั่น

ความกังวลที่ใหญ่ที่สุดของเรากับ ScalaHosting คือพวกเขาไม่มีศูนย์ข้อมูลใดๆที่ใกล้กับเอเชียซึ่งหมายความว่าคุณจะมีไซต์ที่เหมือนสลัวๆหากผู้เข้าชมของคุณส่วนใหญ่มาจากด้านนั้นของโลก

นอกเหนือจากนั้น ScalaHosting มอบผลตอบแทนที่คุ้มค่าแก่เงินของคุณ เพียง $7.95 ต่อเดือนสำหรับฟีเจอร์เกือบไม่จำกัด การโยกย้ายฟรี SSL และโดเมน และทีมสนับสนุนที่ได้รับรางวัลซึ่งทำงานตลอดเวลาเพื่อให้ผู้ใช้มีความสุข

ข้ามไปที่การตรวจสอบ ScalaHosting เชิงลึกของเราเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม!

7. Bluehost

https://www.bluehost.com

Bluehost มาพร้อมประสบการณ์ 16 ปีแห่งบริการเว็บโฮสติ้ง ซึ่งถือเป็นหนึ่งในแบรนด์ใหญ่ของวงการเว็บโฮสติ้ง

เฉกเช่นเดียวกับ SiteGround ค่ายนี้ได้รับการแนะนำโดย WordPress เนื่องจากทุ่มเทใหักับโครงสร้างพื้นฐานที่เฉียบล้ำสมัยและฝ่ายช่วยเหลือดูแลลูกค้าที่เป็นเลิศ (ฝ่ายบริการลูกค้าที่แข็งขัน ทั้ง 750 คนผ่านการอบรมมาอย่างดีและพร้อมให้บริการทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง)

เมื่อพูดถึงความเร็ว ค่ายนี้ก็ไม่แพ้ใคร โดยมีระยะเวลาในการตอบสนองของเซิร์ฟเวอร์เฉลี่ยทั่วโลกที่ 153 มิลลิวินาทีหรือระดับ A+ เลยทีเดียว

ความเร็วเฉลี่ย: 153 มิลลิวินาที – ดูผลลัพธ์แบบเต็ม

สัญญาณปิงจากภายในสหรัฐอเมริกาใช้ความเร็วน้อยกว่า 80 มิลลิวินาที แต่ผลลัพธ์จากประเทศที่อยู่ห่างไกลออกไปจะช้ากว่าเล็กน้อยและจะไล่ไปจนถึง 330 มิลลิวินาทีในประเทศอินเดีย คุณจะต้องมั่นใจว่า ได้เลือกศูนย์ข้อมูลที่อยู่ใกล้กับลูกค้ากลุ่มเป้าหมายมากที่สุด เพราะดูเหมือนว่าการเรียกใช้งานจากพื้นที่ที่อยู่ไกลออกไปจากเซิร์ฟเวอร์จะมีการตอบสนองไม่เร็วเท่าที่ควร ค่ายนี้มีศูนย์ข้อมูลในอินเดีย จีน ลอนดอนและอเมริกา ซึ่งให้ตัวเลือกคุณไว้มากเลยทีเดียว!

น่าเสียดายที่ Bluehost ไม่ได้เตรียมการเกี่ยวกับจำนวนศูนย์ข้อมูลที่พวกเขามีมากนัก เรารู้เพียงศูนย์ข้อมูลเพียง 1 แห่งซึ่งตั้งอยู่ในสหรัฐอเมริกา เราไม่ได้รับอนุญาตให้เลือกศูนย์ข้อมูลที่เราต้องการใช้กับ Bluehost ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกเขาถึงอยู่ในรายชื่อนี้

ดูรีวิว Bluehost ฉบับเต็มของเราเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติม!

เหตุใดความเร็วของเว็บโฮสติ้งจึงสำคัญ?

Core Web Vitals จะใช้เป็นส่วนหนึ่งของเกณฑ์การจัดอันดับของ Google ในไม่ช้าโดยมุ่งเน้นไปที่ 3 แง่มุมที่แตกต่างกันของประสบการณ์หน้าเว็บ ได้แก่ Largest Contentful Paint, First Input Delay และ Cumulative Layout Shift

จาก 3 รายการ 2 รายการแรกขึ้นอยู่กับความเร็วเป็นอย่างมาก!

Thinkwithgoogle ยังกล่าวด้วยว่าคุณต้องการให้เว็บไซต์ของคุณโหลดได้ภายใน 1 วินาที เนื่องจากความน่าจะเป็นที่ผู้ใช้จะเด้งกลับเมื่อความเร็วในการโหลดเว็บไซต์ใช้เวลา 1 – 3 วินาทีนั้นสูงถึง 32%!

กล่าวอีกนัยหนึ่งคือผู้คนจะไม่เพียงแค่ออกจากไซต์ของคุณหากใช้เวลาในการโหลดนานเกินไปแต่อาจสูญเสียอันดับเมื่อเทียบกับไซต์ที่โหลดเร็วกว่า!

นี่คือเหตุผลที่คุณไม่ควรมองหาเว็บโฮสติ้งราคาถูกเพียงอย่างเดียว คุณอาจประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากขึ้นแต่คุณจะสูญเสียโอกาสในการขายที่พลาดไปนับพันครั้ง

ต้องเร็วขนาดไหนถึงเรียกว่าเร็ว

ต่อไปนี้คือ สิ่งที่คุณควรทราบก่อนที่เราจะอธิบายเจาะลึกลงไปในรายละเอียด

1. ความเร็วเซิร์ฟเวอร์เป็นคนละอย่างกับความเร็วเว็บไซต์

สองอย่างนี้คล้ายคลึงกันแต่ไม่ใช่อย่างเดียวกัน ก็เหมือนกับความแตกต่างระหว่างฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ใน iPhone ของคุณนั่นแหละ ไม่ว่าหน้าจออินเทอร์เฟซของผู้ใช้จะปรับแต่งเพิ่มประสิทธิภาพมากน้อยแค่ไหน โทรศัพท์ของคุณก็ยังคงช้าอยู่ดีถ้าฮาร์ดแวร์ทำงานไม่ทัน ฉะนั้น จึงควรจะอัปเดตทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ให้ทันสมัยอยู่เสมอ เพื่อให้ทุกอย่างทำงานได้อย่างราบรื่นและรวดเร็ว

2. เราจะวัดความเร็วเซิร์ฟเวอร์ได้อย่างไร

เราสามารถวัดความเร็วเซิร์ฟเวอร์ได้โดยการทดสอบระยะเวลาการตอบสนอง กล่าวคือ จำนวนเวลาที่เซิร์ฟเวอร์ใช้ในการตอบสนองคำขอของผู้ใช้

3. การทดสอบความเร็วเซิร์ฟเวอร์แสดงให้เห็นอะไรบ้าง

ประสิทธิภาพในการเข้าถึงศูนย์ข้อมูล สเปคของฮาร์ดแวร์ การติดตั้งเซิร์ฟเวอร์ และการวางแผนเครือข่ายของพวกเขา

4. เกณฑ์ของ Google เรื่องเวลาการตอบสนองของเซิร์ฟเวอร์

ตาม Google เวลาตอบสนองของเซิร์ฟเวอร์ที่เหมาะสมที่สุดคือ 200 มิลลิวินาที ไซต์ควรสร้างขึ้นตามเมตริก Web Vital ของ Google โดยเฉพาะ Largest Contentful Paint (LCP) และ First Input Delay (FID) อะไรที่ช้ากว่านั้นและไซต์ต่างๆ จะเริ่มรู้สึกเฉื่อยชา

5. เกี่ยวกับการทดสอบความเร็วเว็บไซต์ของ Bitcatcha

การทดสอบความเร็วเว็บไซต์ที่ไม่เหมือนใครของเราจะคำนวณเวลาตอบสนองของเซิร์ฟเวอร์โดยเฉลี่ยใน 10 แห่งทั่วโลก คะแนนต่ำกว่า 180 มิลลิวินาทีอยู่ในระดับ “A+” และคะแนนจาก 181 ถึง 210 มิลลิวินาทีอยู่ในระดับ “A”

คำตัดสิน

โปรดทราบว่าเว็บโฮสต์ทั้งหมดที่ปรากฏที่นี่นั้นยอดเยี่ยมและอยู่ในระดับ A+ ดังนั้นโดยพื้นฐานแล้วคุณจะไม่ผิดพลาดกับพวกเขา เราได้จัดอันดับตามความชอบของเราแต่อย่าลังเลที่จะเลือกด้วยตัวคุณเอง!

นี่คือบทสรุปของผู้ให้บริการเว็บโฮสติ้งที่เร็วที่สุด 3 อันดับแรกของเรา:

หากเราต้องเลือกเว็บโฮสต์เพียงแห่งเดียว เราก็เลือก Hostinger แน่นอนว่าแบรนด์ทั้งหมดที่มีอยู่ในบทความนี้ยอดเยี่ยมและนำเสนอเทคโนโลยีชั้นยอด แต่ Hostinger นั้นโดดเด่นกว่ากลุ่มอื่นๆในด้านคอมโบที่ชนะด้วยความเร็วเซิร์ฟเวอร์ที่รวดเร็วและข้อเสนอที่สมดุล

พวกเขาใช้ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ร่วมกันเพื่อทำให้เป็นโฮสต์ที่ใช้ร่วมกันที่เร็วที่สุด ซึ่งรวมถึง:

แม้ว่าในตอนแรกแผนราคาประหยัดของพวกเขาจะเป็นที่รู้จักกันว่าดีที่สุด แต่ Hostinger มีการพัฒนาอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และปรับปรุงฮาร์ดแวร์ประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่องซึ่งเราเห็นว่ามันได้แปลงเป็นความเร็วของเซิร์ฟเวอร์ที่ยอดเยี่ยม

พวกเขายังขยายการแสดงตัวตนต่อไปทั่วโลกผ่านเว็บไซต์ที่แปลเป็นภาษาท้องถิ่นและทีมบริการลูกค้าในพื้นที่ (ซึ่งให้การสนับสนุนใน 13 ภาษาที่แตกต่างกัน!)

โดยรวมแล้ววิวัฒนาการของพวกเขาบ่งบอกถึงความทุ่มเทในการปรับปรุงบริการและความเร็ว ลองเข้าไปเยี่ยมชมเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของพวกเขาได้